กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => ธรรมะ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 31 ต.ค. 2552, 07:14:04

หัวข้อ: " ธรรมะตามรายทาง... ๒๒ คืน ๒๒ วัน กับ ๙,๒๗๔ กิโลเมตร"
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 31 ต.ค. 2552, 07:14:04
"ใจของเรามันเป็นปกติอยู่  เปรียบเหมือนน้ำฝน
เป็นน้ำที่ใสสะอาด มีความใสสะอาดบริสุทธิ์เป็นปกติ
   ถ้าเราเอาสีเขียวใส่ลงไป เอาสีเหลืองใส่เข้าไป
น้ำก้จะกลายเป็นสีเขียว สีเหลืองไป
   จิตของเรานี้ก้เหมือนกัน เมือ่ไปถูกอารมณ์ที่ชอบใจ
ใจก็ดี ใจก็สบาย เมื่อถูกอารมณ์ที่ไม่ชอบใจแล้ว
ใจนั้นก็ขุ่นมัว ไม่สบาย เหมือนกันกับน้ำที่ถูกสีเขียว
ก็เขียวไป ถูกสีเหลือง ก็เหลืองไป เปลี่ยนสีไปเรื่อย
   จิตนี้ก็เหมือนกัน ถ้าถูกอารมณ์มาถูก มันก็กวัดแกว่ง
ไปตามอารมณ์ ยิ่งมันไม่รู้เรื่องธรรมะแล้ว ก็ยิ่งปล่อยไปตามอารมณ์
ของเจ้าของเรื่อยไป อารมณ์สุขก็ปล่อยไปตามไป วุ่นวายไปเรื่อยๆ
จนมนุษย์ทั้งหลายเป็นโรคประสาท"
...รวบรวมคำอุปมาของหลวงพ่อชา สุภัทโท(พระโพธิญาณเถร)...
....มุมมองของผู้นำเสนอ...
     ตั้งแต่ออกพรรษามานี้ ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา ทั้งงานกิจนิมนต์ที่รับไว้
และงานกุศลเฉพาะตัว ซึ่งในการเดินทางแต่ละครั้งนั้น ได้พบเห็นสิ่งต่างๆมากมาย
เก็บเกี่ยวไว้เป็นประสพการณ์ของชีวิต นำมาพิจารณาเป็นข้อคิดตามหลักธรรม
แล้วนำมาเสนอเล่าสู่กันฟัง เพื่อให้เห็นสาระประโยชน์ในการเดินทางแต่ละครั้ง
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นธรรมะเป็นสภาวะธรรม ถ้าเรามองให้เห็นว่าเป็นธรรมะ
ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันของเราได้ ทั้งสิ่งที่ถูกใจและไม่ถูกใจ
พิจารณาให้เห็นคุณ เห็นโทษ เห็นประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ของสิ่งเหล่านั้น
แต่ถ้าเราปล่อยใจไปตามกระแสของผัสสะ(สิ่งที่มากระทบ)ใจเราก็จะวุ่นวาย
ไม่มีที่สิ้นสุด เพราะอารมณ์กระทบนั้นมันมีอยู่มากมายและตลอดเวลาที่ผ่านมา
เราจึงต้องหันมาดูกายดูจิตของเรา เมื่อได้รับอารมณ์กระทบเหล่านั้นว่ามันเป็นอย่า่งไร
       "ให้ดูจิตเคลื่อนไหวเหมือนดูหนังดูละคร ให้ดูจิตเคลื่อนไหวอย่าหวั่นไหวตามจิต
        จิตไม่มีตัวตน แต่สามารถกลิ้งกลอกหยอกล้อให้คล้อยตาม เมื่อเรารู้เท่าทัน
       ใจเราก็จะสงบสูงขึ้นตามลำดับ"
เมื่อเราเห็นจิตของเรา เข้าใจจิตของเราแล้ว เราก็จะเข้าใจโลกและเข้าใจธรรม
เข้าใจผู้คนรอบข้างทั้งหลาย ว่าธรรมชาติของมนุษย์ มันเป็นเช่นนั้นเอง
เมื่อเรารู้และเข้าใจ จิตเราก็ไม่หวั่นไหวไปตามกระแสของโลกและอารมณ์กระทบ
เราจะพบซึ่งความสงบอยู่ภายใน ใจเราก็จะสบาย ไม่วุ่นวายไปตามกระแสของสังคม
"ภายนอกเคลื่อนไหว แต่ภายในสงบนิ่ง ความเป็นจริงของธรรมชาติก็จะปรากฏ"
     จงให้เวลาแก่ชีวิตจิตวิญญาณของเรา โดยอาศัยหลักธรรมะเป็นเครื่องอยู่
เครื่องอาศัย เป็นที่พักใจพักจิตของเรา เมื่อจิตได้พักผ่อน จิตนั้นย่อมมีพลัง
"จิตดี กายเด่น จิตด้อย กายดับ"  ก่อนที่เราจะไปสงเคราะห์ผู้อื่น เราต้องสงเคราะห์
ตัวเราเองเสียก่อน เพื่อให้มีกำลังทั้งภายนอกและภายใน เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนทั้งหลาย
     จึงขอฝากไว้เป็นข้อคิดให้ท่านได้พิจารณา ยังปัญญาให้เกิดขึ้น เป็นการเพิ่มพูลบุญกุศล
ของตัวเราให้ยิ่งขึ้น เพื่อยังประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านให้สำเร็จ...
            ด้วยความปรารถนาดีและไมตรจิตแด่มิตรผู้ใฝ่ธรรมทั้งหลาย
                      รวี สัจจะ-วจีพเนจร-สมณะชายขอบ
๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ เวลา ๐๗.๑๐ น. ณ ศาลลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย 
หัวข้อ: ตอบ: " ธรรมะตามรายทาง... ๒๒ คืน ๒๒ วัน กับ ๙,๒๗๔ กิโลเมตร"
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 31 ต.ค. 2552, 09:28:03
"ให้ดูจิตเคลื่อนไหวเหมือนดูหนังดูละคร ให้ดูจิตเคลื่อนไหวอย่าหวั่นไหวตามจิต
        จิตไม่มีตัวตน แต่สามารถกลิ้งกลอกหยอกล้อให้คล้อยตาม เมื่อเรารู้เท่าทัน
       ใจเราก็จะสงบสูงขึ้นตามลำดับ"


"ภายนอกเคลื่อนไหว แต่ภายในสงบนิ่ง ความเป็นจริงของธรรมชาติก็จะปรากฏ"

"จิตดี กายเด่น จิตด้อย กายดับ"


...กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณที่เมตตาชี้แนะครับ....
หัวข้อ: ตอบ: " ธรรมะตามรายทาง... ๒๒ คืน ๒๒ วัน กับ ๙,๒๗๔ กิโลเมตร"
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 31 ต.ค. 2552, 12:40:15
จงให้เวลาแก่ชีวิตจิตวิญญาณของเรา โดยอาศัยหลักธรรมะเป็นเครื่องอยู่
เครื่องอาศัย เป็นที่พักใจพักจิตของเรา เมื่อจิตได้พักผ่อน จิตนั้นย่อมมีพลัง

กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ กราบขอบพระคุณที่สั่งสอนและชี้แนวทางครับ
หัวข้อ: ตอบ: " ธรรมะตามรายทาง... ๒๒ คืน ๒๒ วัน กับ ๙,๒๗๔ กิโลเมตร"
เริ่มหัวข้อโดย: tum72 ที่ 31 ต.ค. 2552, 03:09:57
กราบนมัสการหลวงพี่ครับ

บุญกุศลทำได้ตลอดเวลา ทุกที่และทุกวัน ไม่จำเป็นต้องแค่วันพระหรือวันสำคัญทางศาสนา เพราะผลสุดท้ายก็ได้เกิดกับตัวเองในที่สุด...สาธุ