:054:เป็นธรรมดาของทุกชีวิตในโลกนี้ ที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคปัญหา เพราะว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่หวังไว้เสมอ ดั่งคำที่กล่าวว่า"เส้นทางของชีวิตมิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป" แต่ทำอย่างไร เราจะเข้าใจ และเข้าไปแก้ไขอุปสรรคปัญหานั้นได้ "ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากเหตุ และดับไปที่เหตุ" เราจึงต้องฝึกขบวนการคิดเพื่อเข้าไปหาเหตุ โดยเริ่มจากการฝึกใจให้นิ่งเสียก่อน "นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว"
ซึ่งจะทำให้ใจนิ่งได้นั้นมันต้องมีสมาธิ และการที่จะมีสมาธิได้นั้น มันต้องมีสติ เราจึงต้องฝึกให้มีสติเสียก่อน ก่อนที่จะทำจิตให้สงบ
อุปสรรคและปัญหานั้นมีอยู่ และเป็นสิ่งที่จะต้องเข้าไปแก้ไข แต่เราต้องทำใจของเราให้อยู่เหนือปัญหาให้ได้เสียก่อน เรียกว่าวางปัญหานั้นไว้เสียก่อน มันจะทำให้เราผ่อนคลาย และไม่เป็นการกดดันตัวเราเอง เพราะถ้าเราไม่วางปัญหานั้นไว้เสียก่อน จิตของเราเข้าไปยึดติดยึดถือ มันจะทำให้เราเครียดหนักอกหนักใจ สมองเราไม่ปลอดโปร่งทำให้เกิดความเครียด และเมื่อเรามีความเครียดมันจะทำให้ความคิดของเรานั้นคับแคบ การคิดการมองปัญหาไม่เปิดกว้าง มันจึงไม่เห็นหนทางที่จะแก้ปัญหานั้นได้
เราจึงต้องมาฝึกใจให้รู้จักการทำใจให้อยู่เหนือปัญหา(ออกห่างวางปัญหาไว้ชั่วคราว ) ทำกายทำใจของเราให้ปลอดโปร่งโล่งเบาสบายๆ
โดยการออกกำลังกายหรือหาอะไรทำให้เหงื่อมันออกให้เต็มที่ พักให้เหงื่อแห้งแล้วให้เราไปอาบน้ำ มันจะทำให้ร่างกายของเราเบาสบาย
เป็นการผ่อนคลายและปรับธาตุในกายของเรา แล้วมามองเข้าไปสู่ปัญหาที่มี โดยอย่าคิดว่าเป็นปัญหาของตัวเรา ให้เราคิดว่าเป็นปัญหาของผู้อื่น
สมมุติตัวละครขึ้นมาแทนตัวเราและคนของเรา(เพื่อลดอัตตา ความยึดถือ ว่าตัวกู ของกู)ทำเหมือนกับที่เรามองปัญหาของผู้อื่น วิจารณ์ผู้อื่น
(เรื่องของชาวบ้านเรารู้ไปหมด เข้าใจไปหมด แก้ไขได้หมด เพราะเราไม่มีความกดดัน เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเรา)เพราะถ้าเราคิดว่าเป็นปัญหาของเราที่เราเผชิญอยู่ มันจะมีความยึดถือและคิดเข้าข้างตัวเอง ไม่อยากจะเสียหรือเสียให้น้อยที่สุด จิตไม่เป็นกลางคิดเข้าข้างตัวเอง
เวลาเราเครียดจงอย่าอยู่ในที่คับแคบ อย่าใช้การนอนเป็นการพักผ่อน เพราะมันจะทำให้เรายิ่งเครียดมากขึ้น (ความคิดของเรามันเป็นพลังงานไฟฟ้าสถิตย์ มันจะกระจายอยู่รอบกายเรา และถ้าอยู่ในที่แคบมันจะก่อตัวมีพลัง กลับมากดดันตัวเรา) ให้ออกไปอยู่ในที่โปร่ง ที่กว้าง
มองออกไปให้สุดสายตา ปล่อยความคิดของเราให้กระจายไปสุดกำลัง หายใจยาวๆช้าๆเพื่อปรับธาตุในกาย เป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเส้นประสาทไปในตัว แล้วจึงมองกลับไปเพื่อหาทางแก้ไขในปัญหาที่มี ฝึกทำอย่างนี้บ่อยๆจนชำนาญ แล้วขบวนการคิดคิดเราจะพัฒนา เราจะเข้าใจซึ่งปัญหา หาเหตุที่มาของปัญหานั้นเจอ และจะเห็นช่องทางการแก้ไข เพราะเราจะเข้าไปดับมันที่เหตุ
:016:ปรารถนาดี อยากให้ทุกท่านมีความสุข เข้าใจในทุกข์ แก้ปัญหาตัวเองได้
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
ยามเช้าที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๒ เวลา ๐๗.๐๓ น. ณ กุฏิน้อยริมน้ำโขง ชายแดนประเทศไทย