ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงพ่อสุวรรณ สุวัณโณ วัดภูตบรรพต จ.สงขลา  (อ่าน 11093 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ธรรมะรักโข

  • มีสติ...กำหนดรู้...อยู่ที่จิต
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 749
  • เพศ: ชาย
  • ผู้รักษาธรรม
    • ดูรายละเอียด
หลวงพ่อสุวรรณ สุวัณโณ
วัดภูตบรรพต จ.สงขลา




หลวงพ่อสุวรรณ สุวัณโณ ท่านเป็นชาวปราจีนบุรี ถือกำเนิดเมื่อปี 2411 เมื่ออายุได้ 14 ปี ได้บรรพชาอุปสมบทเป็นสามเณร ณ พัทธสีมา วัดประชุมชน ปราจีนบุรี เมื่ออายุครบวชจึงขออุปสมบทเป็นพระภิกษุ

ท่านเป็นพระที่มีจิตโน้มนำไปทางปฏิบัติมากกว่าปริยัติ จึงมาศึกษาที่วัดจักรวรรดิ์ราชานุวาส หรือวัดสามปลื้มเนื่องจากวัดจักรวรรดิ์ช่วงนั้นมีชื่อเสียงมากในการสอนวิปัสสนา เพราะท่านเจ้าคุณพระมงคลทีป ผู้เป็นอาจารย์นั้นมีความเป็นเลิศในด้านการวิปัสสนาเป็นอย่างยิ่ง

หลวงพ่อศึกษาอยู่นาน 5 พรรษาจึงอำลาออกธุดงค์แสวงหาความวิเวกเพื่อหาผลปฏิบัติในตัวเองร่วมกับสหธรรมิกอีกสา
มรูป แรกๆเดินทางร่วมกัน ต่อมาแยกกันจาริกเดี่ยว บางองค์หันหลังกลับวัดสามปลื้ม บางองค์มุ่งหน้าไปตามปณิธานเดิม อย่างไม่ลดละ โดยเฉพาะหลวงพ่อสุวรรณ

ต่อมาท่านเกิดคิดได้ว่าอันเมืองลังกาซึ่งเป็นเมืองพระพุทธศาสนามีพระเขี้ยวแก้วขององ
ค์พระบรมศาสดาอยู่ทั้งยังมีพระจุฬามณี ซึ่งควรค่าแก่การสักการะเป็นอย่างยิ่ง ท่านจึงจาริกมุ่งหน้าสู่แดนทักษิณ รอนแรมถึงท้ายเกาะภูเก็ต และเดินทางไปยังเกาะลังกาโดยเรือสินค้าเข้าจำพรรษาที่ “วัดการ์ปู” แล้วแจ้งต่อกงสุลไทยในลังกา เพื่อขออนุญาตเดินทางจาริกเพื่อนมัสการปูชนียสถานอันสำคัญได้ตามสะดวก และได้รับการอนุมัติด้วยดีจากรัฐบาลศรีลังกา

ท่านจาริกแสวงบุญอยู่ในลังกา 6 ปีเต็ม จึงเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองมารดร โดยอาศัยเรือไปขึ้นบกที่ประเทศพม่า เพื่อธุดงค์นมัสการพระธาตุมุเตา และศาสนสถานอันสำคัญในมัณฑะเล จากประเทศพม่า หลวงพ่อสุวรรณอาศัยเรือโดยสารมาขึ้นบกที่จังหวัดสงขลา เข้าพำนักที่วัดมัชฌิมาวาสในตัวเมืองสงขลา

เมืองสงขลาสมัยนั้นมีเจ้าพระยาวิเชียรคีรีเป็นเจ้าเมือง ท่านผู้นี้มีความใกล้ชิดและเลื่อมใสในปฏิปทาของหลวงพ่อสุวรรณ จึงเสนอตัวขอเป็นโยมอุปัฏฐาก แต่เนื่องหลวงพ่อสุวรรณท่านคุ้นเคยกับความวิเวกของภูเขาลำเนาไพร ท่านจึงไม่อยากที่จะพำนักในสภาพแวดล้อมของความวุ่นวายในตัวเมือง ท่านจึงได้ขอย้ายจากวัดมัชฌิมาวาส ไปสู่วัดเกาะถ้ำ ในปี 2471 (เป็นปีที่ระบุไว้ในเหรียญสวยๆ ในภาพล่าง)





แต่ท่านก็จำพรรษาที่วัดเกาะถ้ำได้ไม่นาน ความคุ้นเคยกับการจาริกธุดงค์ ทำให้ท่านหอบหิ้วบริขารออกธุดงค์อีกครั้ง คราวนี้ท่านมุ่งหน้าไปยังถิ่นแถวที่เป็นเทือกเขา ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “เขาผี” ซึ่งชาวบ้านเล่าลือกันว่าเป็นที่สิ่งสู่ของปิศาจไพรที่ดุร้าย และมีไข้ป่าชุกชุม ชาวบ้านในย่านนั้นไม่มีใครกล้าเหยียบย่างเข้าไป

ท่านไปปักกลด แล้วเจริญภาวนาแผ่เมตตาแก่อาถรรพ์ร้ายทั้งปวง ภูตผีปิศาจรวมทั้งวิญญาณบาปที่สิงสู่อยู่บนเขาเพราะยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด ได้พากันมาปรากฏให้เห็นและขอร้องให้หลวงพ่อสร้างวัดขึ้น เพื่อที่พวกเขาจะได้อาศัยในอานิสงค์ผลบุญไปด้วย หลวงพ่อจึงริเริ่มตั้งสำนักสงฆ์บนเขาผี และชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างวัด ในที่สุดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา และทางการถวายนามพระอารามบนเขาผีว่า “วัดภูตบรรพต”

ชาวบ้านผู้เป็นทายกทายิกาก็อารธนาหลวงพ่อสุวรรณขึ้นเป็นเจ้าอาวาสองค์ปฐมองค์แรก แต่ท่านปฏิเสธเพราะไม่อยากเกี่ยวข้องกับระบบปกครอง แล้วให้นิมนต์ หลวงพ่อแดง จากวัดมัชฌิมาวาสมาเป็นเจ้าอาวาสแทนท่าน ต่อมาหลวงพ่อแดงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น “พระครูโสภณศีลาจารย์” และย้ายไปรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดควนนิมิต อ.จะนะ จ.สงขลา เจ้าอาวาสองคืต่อมาได้แก่ “พระครูถาวรศีลคุณ” หรือหลวงพ่อเมศร์

หลังจากมอบตำแหน่งเจ้าอาวาสให้ผู้อื่นไปแล้วหลวงพ่อสุวรรณก็เลี่ยงไปพำนักในถ้ำเล็กๆ แห่งหนึ่งบนเขาผี ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดมากนัก ด้วยมุ่งหวังที่จะกระทำความเพียรกับการวิปัสสนา และสมถกัมมัฏฐานให้ถึงที่สุด จนกระทั่งในปี พ.ศ.2494 ก่อนที่ท่านจะมรณภาพที่ได้บอกกับพระครูโสภณศีลาจารย์ หรือ หลวงพ่อแดงว่า อีกแปดเดือนท่านจะละสังขารแล้ว ให้จดจำวันเดือนปีที่ท่านจะมรณภาพไว้ด้วย ครั้นถึงกำหนด ท่านพระครูก็ส่งคนไปดูที่ถ้ำจึงมีผู้ไปพบหลวงพ่อสุวรรณถึงแก่มรณภาพเสียแล้ว ในท่านั่งสมาธินั่นเอง



ขอบคุณภาพและเรื่องจากชมรมคนรักษ์พระเครื่องเมืองสงขลาครับ

ออฟไลน์ หลังฝน..

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 310
  • เพศ: ชาย
  • ทุกอย่างมีเหตุและผลเสมอ
    • MSN Messenger - webmaster@lifesyt-it.net
    • ดูรายละเอียด
    • www.lifestyle-it.net
ขอบคุณครับพี่ ได้อ่านอะไรดีๆอีกแล้ว กราบนมัสการ หลวงพ่อสุวรรณ ครับผม
ความพยายามนั้นมีอยู่จริงในตัวตนของเรา สุดแท้แต่ความพยายามนั้นจะถูกดึงออกมาใช้ได้มากน้อยแต่เพียงใด