กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 29 มิ.ย. 2552, 08:40:11

หัวข้อ: บทเพลงแห่งสายน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 29 มิ.ย. 2552, 08:40:11
 :059:ล่องลอยตามกระแส.....ความผันแปรสายน้ำไหล
เคลื่อนคล้อยและลอยไป.....ตามแรงไหลของธารา
ผักตบเศษสวะ...และขยะต่างลอยมา
สายน้ำไม่งามตา...สายธารานามท่าจีน
    เลื่อนคล้อยและลอยผ่าน....มาเนิ่นนานนิจศีล
ใกล้ตาแต่ไกลตีน....น้าท่าจีนมีหลายนาม
ผ่านวัดมะขามเฒ่า...ฉันจึงเข้าไปสอบถาม
เสาะหาพยายาม...จึงทราบนาม"น้ำชัยนาท"
แวะไหว้หลวงปู่ศุข....แล้วรีบลุกตามโอกาศ
ทำตามความสามารถ...มิให้พลาดเมื่อผ่านมา
     ลอยล่องมาเรื่อยเรื่อย....เพราะเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้า
แรมรอนสัญจรมา....มีนามว่า"น้ำสุพรรณ"
เหลียวมองทั้งสองฝั่ง....มีความหลังที่น่าขัน
คนดังเมืองสุพรรณ....ชื่อว่าบรร-หารแจ่มใส
ลูกสาวชื่อหนูนา....มีหน้าตางามวิไลย์
แต่รู้ว่าลูกใคร....ก็เลยไม่กล้าสบตา
รีบจรก่อนลำบาก....เพราะไม่อยากมีปัญหา
ลาแล้วนะแก้วตา....ไว้ชาติหน้าค่อยพบกัน
    สายน้ำไหลเอื่อยเอื่อย....ไหลเรื่อยเรื่อยอยู่อย่างนั้น
ผ่านมาหลายคืนวัน....แม่น้ำนั้นนามเปลี่ยนไป
"แม่น้ำนครชัยศรี"....น้ำสายนี้มีนามใหม่
จำได้ติดตรึงใจ...เพราะว่าได้คุ้นเคยกัน
เพราะผ่าน"วัดบางพระ"....แหล่งธรรมะสมานฉันท์
ศูนย์รวมสายสัมพันธ์...สายเลขยันต์"หลวงพ่อเปิ่น"
ขอพรกราบหลวงพ่อ...ด้วยลูกขอความเจริญ
ขอให้ลูกเพลิดเพลิน....และเจริญนทางธรรม
     สายน้ำไม่หยุดนิ่ง....ทุกทุกสิ่งกระแสกรรม
เกิดจากที่เราทำ...จะน้อมนำผลตามมา
ทำดีจะมีสุข...ทำชั่วทุกข์ต้องโศกา
ผลกรรมจะนำพา...เราต้องมาชดใช้กรรม
   ผ่านไปชื่อใหม่มา...มีนามว่า"สมุทรสาคร"
ผ่านไปเป็นตอนตอน...เขียนเป็นกลอนสู่กันฟัง.....
 :016:แด่สายน้ำสายฃีวิต...แด่ความคิด....แด่การกระทำ :015:
                        ปรารถนาดีและไมตรีจิต
                         รวี สัจะ-สมณะไร้นาม
๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๒ เวลา ๐๘.๓๙ น. ณ ริมสายน้ำนครชัยศรี



หัวข้อ: ตอบ: บทเพลงแห่งสายน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 29 มิ.ย. 2552, 09:28:34
กราบนมัสการหลวงพี่ครับ มีเรื่องอยากจะเรียนถามท่านครับ เมื่อคืนได้นั่งสมาธิ แล้วในขณะที่นั่ง มีความรู้สึกตัวเอียงไปมาซ้ายขวาช้าๆ เหมือนมีคนจับโยก และตัวจะเอียงไปด้านหลังเหมือนมีอะไรมาดึงต้องฝืนตัวเองกลับ เป็นอย่างนี้หลายครั้ง แต่ในขณะนั้น รู้สึกถึงลมหายใจว่าละเอียดลงเรื่อยๆจนเหมือนจะไม่มีลมหายใจครับ แต่เมื่อคืนในขณะที่นั่งรู้สึกร้อนครับ เหมือนเหงื่อจะซึมๆออกมา ทั้งที่เมื่อคืนฝนตกหนักและที่สำคัญคือผมเปิดแอร์ครับ อยากจะเรียนถามหลวงพี่ว่าที่ผมเล่ามาทั้งหมดคืออาการปิติหรือครับ ผมควรปฎิบัติเช่นไรต่อ รบกวนหลวงพี่ด้วยครับ กราบขอบพระคุณครับ
หัวข้อ: ตอบ: บทเพลงแห่งสายน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 29 มิ.ย. 2552, 10:31:33
กราบนมัสการหลวงพี่ครับ มีเรื่องอยากจะเรียนถามท่านครับ เมื่อคืนได้นั่งสมาธิ แล้วในขณะที่นั่ง มีความรู้สึกตัวเอียงไปมาซ้ายขวาช้าๆ เหมือนมีคนจับโยก และตัวจะเอียงไปด้านหลังเหมือนมีอะไรมาดึงต้องฝืนตัวเองกลับ เป็นอย่างนี้หลายครั้ง แต่ในขณะนั้น รู้สึกถึงลมหายใจว่าละเอียดลงเรื่อยๆจนเหมือนจะไม่มีลมหายใจครับ แต่เมื่อคืนในขณะที่นั่งรู้สึกร้อนครับ เหมือนเหงื่อจะซึมๆออกมา ทั้งที่เมื่อคืนฝนตกหนักและที่สำคัญคือผมเปิดแอร์ครับ อยากจะเรียนถามหลวงพี่ว่าที่ผมเล่ามาทั้งหมดคืออาการปิติหรือครับ ผมควรปฎิบัติเช่นไรต่อ รบกวนหลวงพี่ด้วยครับ กราบขอบพระคุณครับ
:059:อาการที่พบนั้นคืออาการปิติครับและที่เรารู้สึกเหมือนตัวเอียงไปเอียงมานั้นเป็นเพราะเราไปจับลมหายใจและจิตของเราเริ่มจะแนบแน่นกับลม(เริ่มเข้าสู่สมาธิ)จิตกำลังจะเป็นหนึ่งเดียวกับลม(ลักษณะของธาตุลมคือพัดไหว พัดไปพัดมา)เราจึงรู้สึกเหมือนกายเราเอนไปเอนมา.......
สิ่งที่กำลังปฏิบัตินั้นคือ "กสินลม"และที่เหงื่อเราซึมออกมานั้นมันเป็นอาการปิติและเกิดจากการปรับธาตุในกายของเรา(เมื่อจิตเข้าสู่สมาธิร่างกายจะมีการปรับธาตุให้เกิดความสมดุลย์)และธาตุที่มีกำลังในขณะนั้นคือธาตุไฟงแสดงผลออกมา
 :059:จงดูต่อไปไม่ต้องตกใจเพราะต่อไปมันจะเหมือนกับเราไม่หายใจและเราจะเห็นดวงนิมิตของธาตุลมที่กลมใสคล้ายหยดน้ำ....อนุโมทนาด้วยครับ ปฏิบัติดีแล้วและจงทำต่อไป
หัวข้อ: ตอบ: บทเพลงแห่งสายน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: umpawan ที่ 29 มิ.ย. 2552, 10:39:02
เข้ามาเก็บความรู้ครับ


 :054:
หัวข้อ: ตอบ: บทเพลงแห่งสายน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 29 มิ.ย. 2552, 11:08:14
กราบนมัสการหลวงพี่ครับ มีเรื่องอยากจะเรียนถามท่านครับ เมื่อคืนได้นั่งสมาธิ แล้วในขณะที่นั่ง มีความรู้สึกตัวเอียงไปมาซ้ายขวาช้าๆ เหมือนมีคนจับโยก และตัวจะเอียงไปด้านหลังเหมือนมีอะไรมาดึงต้องฝืนตัวเองกลับ เป็นอย่างนี้หลายครั้ง แต่ในขณะนั้น รู้สึกถึงลมหายใจว่าละเอียดลงเรื่อยๆจนเหมือนจะไม่มีลมหายใจครับ แต่เมื่อคืนในขณะที่นั่งรู้สึกร้อนครับ เหมือนเหงื่อจะซึมๆออกมา ทั้งที่เมื่อคืนฝนตกหนักและที่สำคัญคือผมเปิดแอร์ครับ อยากจะเรียนถามหลวงพี่ว่าที่ผมเล่ามาทั้งหมดคืออาการปิติหรือครับ ผมควรปฎิบัติเช่นไรต่อ รบกวนหลวงพี่ด้วยครับ กราบขอบพระคุณครับ
:059:อาการที่พบนั้นคืออาการปิติครับและที่เรารู้สึกเหมือนตัวเอียงไปเอียงมานั้นเป็นเพราะเราไปจับลมหายใจและจิตของเราเริ่มจะแนบแน่นกับลม(เริ่มเข้าสู่สมาธิ)จิตกำลังจะเป็นหนึ่งเดียวกับลม(ลักษณะของธาตุลมคือพัดไหว พัดไปพัดมา)เราจึงรู้สึกเหมือนกายเราเอนไปเอนมา.......
สิ่งที่กำลังปฏิบัตินั้นคือ "กสินลม"และที่เหงื่อเราซึมออกมานั้นมันเป็นอาการปิติและเกิดจากการปรับธาตุในกายของเรา(เมื่อจิตเข้าสู่สมาธิร่างกายจะมีการปรับธาตุให้เกิดความสมดุลย์)และธาตุที่มีกำลังในขณะนั้นคือธาตุไฟงแสดงผลออกมา
 :059:จงดูต่อไปไม่ต้องตกใจเพราะต่อไปมันจะเหมือนกับเราไม่หายใจและเราจะเห็นดวงนิมิตของธาตุลมที่กลมใสคล้ายหยดน้ำ....อนุโมทนาด้วยครับ ปฏิบัติดีแล้วและจงทำต่อไป

กราบนมัสการ ขอบพระคุณพระอาจาร์ยมากครับ ที่เมตตาตอบทุกคำถามให้ผม พร้อมชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องให้เสมอ ผมขอกราบตัวเป็นลูกศิษย์ท่านน่ะครับ และต่อไปนี้ขอเรียกท่านว่าพระอาจาร์ย ขอให้พระอาจาร์ยรับผมเป็นศิษย์ด้วยน่ะครับ
ปล.ต้องขอโทษที่บางทีผมตั้งคำถามไม่ตรงกระทู้น่ะครับ และเหตุที่ไม่pmไปถามส่วนตัว เพราะคิดว่าคำถามของผม บางทีอาจจะเป็นประโยช์นสำหรับท่านอื่นๆด้วยครับ หากเห็นว่าไม่สมควรช่วยแจ้งผมด้วยครับ
หัวข้อ: ตอบ: บทเพลงแห่งสายน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: cho presley ที่ 29 มิ.ย. 2552, 11:55:44
อรรถรสบทกลอนยามเช้า...เพลิดเพลินจำเริญใจ กราบขอบพระคุณท่านระวี...

สายน้ำ สายความสดชื่น...ชื่นฉ่ำหัวใจ..

ได้เวลาอาหารกลางวันพอดีเชียว.. :100:
หัวข้อ: ตอบ: บทเพลงแห่งสายน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ۞เณรน้อยเส้าหลิน۞ ที่ 29 มิ.ย. 2552, 01:11:14
กราบนมัสการหลวงพี่ครับ มีเรื่องอยากจะเรียนถามท่านครับ เมื่อคืนได้นั่งสมาธิ แล้วในขณะที่นั่ง มีความรู้สึกตัวเอียงไปมาซ้ายขวาช้าๆ เหมือนมีคนจับโยก และตัวจะเอียงไปด้านหลังเหมือนมีอะไรมาดึงต้องฝืนตัวเองกลับ เป็นอย่างนี้หลายครั้ง แต่ในขณะนั้น รู้สึกถึงลมหายใจว่าละเอียดลงเรื่อยๆจนเหมือนจะไม่มีลมหายใจครับ แต่เมื่อคืนในขณะที่นั่งรู้สึกร้อนครับ เหมือนเหงื่อจะซึมๆออกมา ทั้งที่เมื่อคืนฝนตกหนักและที่สำคัญคือผมเปิดแอร์ครับ อยากจะเรียนถามหลวงพี่ว่าที่ผมเล่ามาทั้งหมดคืออาการปิติหรือครับ ผมควรปฎิบัติเช่นไรต่อ รบกวนหลวงพี่ด้วยครับ กราบขอบพระคุณครับ
:059:อาการที่พบนั้นคืออาการปิติครับและที่เรารู้สึกเหมือนตัวเอียงไปเอียงมานั้นเป็นเพราะเราไปจับลมหายใจและจิตของเราเริ่มจะแนบแน่นกับลม(เริ่มเข้าสู่สมาธิ)จิตกำลังจะเป็นหนึ่งเดียวกับลม(ลักษณะของธาตุลมคือพัดไหว พัดไปพัดมา)เราจึงรู้สึกเหมือนกายเราเอนไปเอนมา.......
สิ่งที่กำลังปฏิบัตินั้นคือ "กสินลม"และที่เหงื่อเราซึมออกมานั้นมันเป็นอาการปิติและเกิดจากการปรับธาตุในกายของเรา(เมื่อจิตเข้าสู่สมาธิร่างกายจะมีการปรับธาตุให้เกิดความสมดุลย์)และธาตุที่มีกำลังในขณะนั้นคือธาตุไฟงแสดงผลออกมา
 :059:จงดูต่อไปไม่ต้องตกใจเพราะต่อไปมันจะเหมือนกับเราไม่หายใจและเราจะเห็นดวงนิมิตของธาตุลมที่กลมใสคล้ายหยดน้ำ....อนุโมทนาด้วยครับ ปฏิบัติดีแล้วและจงทำต่อไป

กราบนมัสการ ขอบพระคุณพระอาจาร์ยมากครับ ที่เมตตาตอบทุกคำถามให้ผม พร้อมชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องให้เสมอ ผมขอกราบตัวเป็นลูกศิษย์ท่านน่ะครับ และต่อไปนี้ขอเรียกท่านว่าพระอาจาร์ย ขอให้พระอาจาร์ยรับผมเป็นศิษย์ด้วยน่ะครับ
ปล.ต้องขอโทษที่บางทีผมตั้งคำถามไม่ตรงกระทู้น่ะครับ และเหตุที่ไม่pmไปถามส่วนตัว เพราะคิดว่าคำถามของผม บางทีอาจจะเป็นประโยช์นสำหรับท่านอื่นๆด้วยครับ หากเห็นว่าไม่สมควรช่วยแจ้งผมด้วยครับ

กราบนมัสการหลวงอาด้วยความเคารพอย่างสูง

ผมได้อ่านทั้งบทกลอน และการตอบอารมณ์กรรมฐานระหว่างหลวงอากับคุณอาตี๋  ได้ประโยชน์มากเลยครับ

ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกต้องหรือเปล่าว่า อารมณ์ของพี่ตี๋ขณะนั้นเป็นอุปจารสมาธิ  ถ้าแนบแน่นจนเห็นดวงนิมิตใสบริสุทธิ์จิตก็เข้าสู่สภาวะอัปปณาสมาธิใช่หรือเปล่าครับ

กราบแทบเท้า
หัวข้อ: ตอบ: บทเพลงแห่งสายน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 29 มิ.ย. 2552, 04:09:26
สิ่งที่ท่านเณรน้อยเส้าหลินเข้าใจนั้น"ถูกต้องแล้วครับ"ขออนุโมทนาด้วยนะครับ
หัวข้อ: ตอบ: บทเพลงแห่งสายน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: tum72 ที่ 29 มิ.ย. 2552, 04:13:17
สายน้ำย่อมมีขึ้นมีลง มีเชี่ยวมีกลาด มีนิ่งมีสงบ ถ้าเราลองสังเกตให้ดี สายน้ำบ่งบอกและสอนอะไรๆเราได้หลายๆอย่างเลยทีเดียวครับ
หัวข้อ: ตอบ: บทเพลงแห่งสายน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์โจรสลัด~ ที่ 29 มิ.ย. 2552, 05:43:42
แม่น้ำสายเดียวมีหลายชื่อ เหมือนกับหนุมาน องค์เดียวมีหลายชื่อเช่นกัน

แม่น้ำ ไหล่มากน้อยเพียงใดก็คือแม่น้ำ

หนุมาน จะออกท่าทางอย่างไรก็คือหนุมาน ...  :095:
หัวข้อ: ตอบ: บทเพลงแห่งสายน้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: ۞เณรน้อยเส้าหลิน۞ ที่ 29 มิ.ย. 2552, 06:01:55
สิ่งที่ท่านเณรน้อยเส้าหลินเข้าใจนั้น"ถูกต้องแล้วครับ"ขออนุโมทนาด้วยนะครับ

กราบขอบพระคุณหลวงอามากครับที่เมตตาต่อผมครับ

กราบนมัสการอย่างสูงครับ