4.วัดใหม่อมตรส
แม้ว่าตามธรรมเนียมของวัดโบราณ หลายวัดนั้นมักจะสร้างให้อยู่ติดริมน้ำเพื่อที่จะให้พระสงฆ์องค์เจ้ารวมทั้งผู้มีจิตศรัทธา ได้สัญจรไปมาได้โดยสะดวกในยุคที่บ้านเมืองเรายังไม่มีถนนนั้น จะมีวัดหลวงอยู่บางวัดเหมือนกันที่ไม่ได้สร้างติดกับริมน้ำ ส่วนหนึ่ง น่าจะมาจากเหตุที่ว่าวัดบางวัดเหล่านี้ สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของชาวบ้าน ก่อนที่จะได้รับการบูรณะ โดยพระมหากษัตริย์หรือเจ้าฟ้าองค์อื่นๆ จนกลายมาเป็นวัดหลวงตามธรรมเนียมนี้อย่างเช่นที่ วัดเอี่ยมวรนุช , วัดอินทรวิหาร หรือแม้แต่ วัดใหม่อมตรส ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ตรงบริเวณแยกบางขุนพรหมนั้น ก็เป็นอีกวัดที่สร้างกันมานาน ตั้งแต่ก่อนที่ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกจะสถาปนา บางกอกให้เป็นเมืองหลวง วัดใหม่อมตรสนี้ แต่เดิมเป็นวัดใหญ่มีชื่อว่า วัดบางขุนพรหม ซึ่งมีชื่อตามตำบลที่ตั้ง ต่อมา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระราชดำริ ให้มีการสร้างถนนขึ้น แล้วผังเมืองในการสร้างถนนในคราวนั้นปรากฏออกมาว่า ต้องผ่าวัดออกเป็น 2 พื้นที่ โดยมีถนนตัดผ่านกลาง วัดบางขุนพรหมนี้ จึงได้กลายเป็น 2 วัดพร้อมทั้งมีชื่อใหม่ที่ ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานนามให้ โดยวัดที่ตัดออกมาทางทิศเหนือนั่นเรียกว่า วัดอินทรวิหาร ส่วนวัดทางทิศใต้มีชื่อใหม่ว่า วัดใหม่อมตรส ซึ่งแปลว่า รสที่ไม่เปลี่ยนแปลง โดยทรงตั้งให้เป็นไปตามพุทธภาษิตที่ว่า สัพพะ รสัง ธัมม รสัง ชินาติ รสทั้งปวง ธัมมรสชนะรสทั้งปวง
(http://img9.imageshack.us/img9/5953/dscf1514ahi.jpg)
(http://img19.imageshack.us/img19/9233/dscf1515z.jpg)
5.วัดชนะสงครามวัดชนะสงคราม เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้าง เดิมเรียกว่าวัดกลางนา เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี มีพระราชประสงค์ที่จะสร้างสิ่งก่อสร้างขึ้นให้คล้ายคลึงกับกรุงศรีอยุธยามากที่สุด วัดที่ตั้งอยู่ใกล้พระบรมมหาราชวังได้ทรงปฏิสังขรณ์ใหม่ ตลอดจนเปลี่ยนชื่อวัดให้เหมาะสม โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อวัดกลางนาเป็นวัดตองปุ และให้เป็นวัดพระสงฆ์ฝ่ายรามัญ เช่นเดียวกับวัดตองปุที่กรุงศรีอยุธยา เพื่อเทิดเกียรติทหารชาวรามัญในกองทัพสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้กับพม่าในสงครามเก้าทัพ เมื่อ พ.ศ. 2328 สงครามที่ท่าดินแดงและสามสบ เมื่อ พ.ศ. 2329 และสงครามที่นครลำปางป่าซาง เมื่อ พ.ศ. 2330 สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดตองปุแล้วถวายเป็นพระอารามหลวงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามใหม่ว่า วัดชนะสงคราม เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ทรงมีชัยชนะต่อพม่าในการรบทั้ง 3 ครั้ง
วัดชนะสงครามได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้ทรงเริ่มดำเนินการก่อสร้างที่บรรจุพระอัฐิเจ้านายฝ่ายพระราชวังบวรสถานมงคลที่เฉลียงพระอุโบสถด้านหลังตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระพันปีหลวงทรงพระราชอุทิศพระราชทรัพย์ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากฤษดาภินิหาร กรมพระนเรศร์วรฤทธิ์ดำเนินการ แต่การก่อสร้างมาแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งพระราชทานพระราชทรัพย์ให้ราชบัณฑิตยสภาดำเนินการก่อสร้าง ขณะนั้น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพเป็นนายกราชบัณฑิตยสภาและสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงดำเนินการก่อสร้างจนเสร็จสิ้น ได้มีพิธีอัญเชิญพระอัฐิจากพระราชวังบวรสถานมงคลไปประดิษฐานใน พ.ศ. 2470
(http://img40.imageshack.us/img40/2538/dscf1522q.jpg)
(http://img193.imageshack.us/img193/8439/dscf1524h.jpg)
(http://img200.imageshack.us/img200/7417/dscf1527.jpg)
6.วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
วัดสุทัศนเทพวราราม เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นใน พ.ศ. 2350 เดิมพระราชทานนามว่า ?วัดมหาสุทธาวาส? โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระวิหารขึ้นก่อนเพื่อประดิษฐานพระศรีศากยมุนี (พระโต) ซึ่งอัญเชิญมาจากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย แต่สิ้นรัชกาลก่อนที่จะประดิษฐานเป็นสังฆาราม จึงเรียกกันว่า วัดพระโต วัดพระใหญ่ หรือวัดเสาชิงช้าบ้าง จนกระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดเกล้าฯ ให้สร้างต่อ และทรงจำหลักบานประตูพระวิหารด้วยพระองค์เอง แต่ก็สิ้นรัชกาลเสียก่อนที่การก่อสร้างจะแล้วเสร็จ การก่อสร้างวัด มาเสร็จบริบูรณ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ใน พ.ศ. 2390 และพระราชทานนามว่า ?วัดสุทัศนเทพวราราม? ปรากฏในจดหมายเหตุว่า ?วัดสุทัศนเทพธาราม? และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงผูกนามพระประธานในพระวิหาร พระอุโบสถ และศาลาการเปรียญ ให้คล้องกันว่า "พระศรีศากยมุนี" "พระพุทธตรีโลกเชษฐ์" และ "พระพุทธเสรฏฐมุนี"
ภายในวัดสุทัศนเทพวรารามเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และได้อัญเชิญ พระบรมราชสรีรางคารของพระองค์ มาบรรจุที่ผ้าทิพย์ด้านหน้าพุทธบัลลังก์พระศรีศากยมุนีเมื่อ พ.ศ. 2493 และมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทรในวันที่ 9 มิถุนายนของทุกปี
(http://img229.imageshack.us/img229/184/dscf1528.jpg)
(http://img526.imageshack.us/img526/5928/dscf1530.jpg)
(http://img188.imageshack.us/img188/3963/dscf1531w.jpg)
(http://img10.imageshack.us/img10/1660/dscf1534.jpg)
(http://img13.imageshack.us/img13/6039/dscf1447y.jpg)
ปาท่องโก๋นอนเอาแรง มีต่ออีก3วัดนะครับ
2/3