กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 12 ก.ค. 2552, 07:07:55
-
:054:ได้รู้ ได้เห็นและเข้าใจ มันทำให้ปิติเกิด รู้สึกสดชื่น แจ่มใส ใจเบิกบาน เรียกเป็นภาษาชาวบ้านว่ามัน อิ่มอก อิ่มใจ แต่อยู่ได้ไม่นาน
มันก็ดับไป แต่พอเรารู้ใหม่เห็นใหม่ เข้าใจในสิ่งใหม่ มันก็ดีใจแจ่มใสสดชื่นใหม่อีกครั้ง เป็นอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายใต้กฏของธรรมชาติ คือมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และย่อมดับไปในที่สุด ถ้าเราเข้าไปยึดถือ เข้าไปแสดงความเป็นเจ้าของในอารมณ์นั้นแล้ว
มันจะทำให้เราทุกข์ เมื่อมันเสื่อมไปหรือดับไป แต่ถ้าเรารู้เท่าทันในอารมณ์เหล่านั้น เราก็จะทำใจได้ ไม่ไปยึดติดกับมัน แต่บางครั้งก็ทำได้ยากเพราะมันมีเหยื่อล่อให้ใจเราไปรักไปชอบไปเพลินกับอารมณ์เหล่านั้น
:059:"รู้ไปหมด...แต่อดไม่ได้" เป็นเพราะความเคยชินที่มีมา ต้องพยายามแก้ไขพฤติกรรมทางความคิดเสียใหม่ ค่อยๆคิดค่อยๆทำ สั่งสมประสพการณ์ทางจิต ทางความคิด สร้างความเคยชินให้เป็นนิสัย เปิดมุมมองของจิตให้เปิดกว้าง และต้องพยายามกระทำอยู่อย่างสม่ำเสมอ
จนกลายเป็นพฤติกรรมปกติของจิต ในการคิด การทำและการพูด
:069:ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ยากเกินความพยายาม ถ้าเรามีความตั้งใจจริง เราต้องทำให้จริงไม่ทอดทิ้งธุระ ต้องเอาชนะความเกียจคร้าน ความท้อแท้ท้อถอย และความยากลำบาก อุปสรรคและปัญหามีไว้ให้แก้ไข ไม่ใช่มีไว้เพื่อท้อถอย ต้องตั้งใจจริง แล้วความสำเร็จจะไม่ไกลเกินความพยายาม "จงปลุกปลอบใจตัวเองอยู่เสมอว่า...เสียอะไรก็ได้...แต่อย่าให้ใจเสีย"
:054:แด่สภาวะธรรมทั้งหลายที่สอนให้เข้าใจธรรม :054:
เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ไมตรีจิต
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๒ เวลา ๐๗.๐๗ น. ณ กุฏิน้อยริมน้ำโขง ชายแดนประเทศไทย
-
กราบนมัสการขอรับ
-
กราบนมัสการเจ้าค่ะพระอาจารย์....."ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ยากเกินความพยายาม"
เป็นคติประจำใจของ taulec
-
สมัสการครับ สาระดีมากครับ ขอบคุณครับ
-
"รู้ไปหมด...แต่อดไม่ได้" ทุกวันนี้ยังสงสัยตัวเองอยู่เลยครับว่าทำไมรู้แล้วยังทำ กราบนมัสการขอบคุณพระอาจารย์ที่ให้บทความเตือนสติครับ
-
"รู้ไปหมด...แต่อดไม่ได้" ทุกวันนี้ยังสงสัยตัวเองอยู่เลยครับว่าทำไมรู้แล้วยังทำ กราบนมัสการขอบคุณพระอาจารย์ที่ให้บทความเตือนสติครับ
:059:ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่า องค์แห่งคุณธรรมของเรายังมีกำลังไม่เพียงพอที่จะเข้าไปยับยั้งจิตไม่ให้คล้อยตามกิเลสนั้นได้ องค์แห่งคุณธรรมนั้นคือ"หิริและโอตัปปะความละอายและเกรงกลัวต่อบาป" วิธีที่จะเพิ่มกำลังแห่งองค์คุณธรรมนั้น เราต้องพิจารณาให้เห็นภัยเห็นโทษของสิ่งนั้น ว่ามันจะมีผลต่อไปอย่างไรในภายภาคหน้า ถ้าเรายังคิดและทำอย่างนั้น
-
กราบขอบพระคุณพระอาจารย์มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ศิษย์จะน้อมนำเอาไปเป็นข้อคิดและปฏิบัติตามครับ :054:
-
"รู้ไปหมด...แต่อดไม่ได้" ทุกวันนี้ยังสงสัยตัวเองอยู่เลยครับว่าทำไมรู้แล้วยังทำ กราบนมัสการขอบคุณพระอาจารย์ที่ให้บทความเตือนสติครับ
:059:ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่า องค์แห่งคุณธรรมของเรายังมีกำลังไม่เพียงพอที่จะเข้าไปยับยั้งจิตไม่ให้คล้อยตามกิเลสนั้นได้ องค์แห่งคุณธรรมนั้นคือ"หิริและโอตัปปะความละอายและเกรงกลัวต่อบาป" วิธีที่จะเพิ่มกำลังแห่งองค์คุณธรรมนั้น เราต้องพิจารณาให้เห็นภัยเห็นโทษของสิ่งนั้น ว่ามันจะมีผลต่อไปอย่างไรในภายภาคหน้า ถ้าเรายังคิดและทำอย่างนั้น
พี่ตี๋ก้อ... ใจเย็นๆ นะคะ... เดี่ยวนี้ ฆ่าหมัดหมาตัวนึง พี่ตี๋ท่านยังเครียดเลยหลวงพ่อ... .. พี่ตี๋ ร๊อกเกอร์รุ่นใหญ่ ใฝ่ธรรมะของน้องๆ... :009:
งั้นเราก็ต้องหมั่นเรียนรู้แล้วหละว่า...ความละอายต่อบาปนั้น... จะทำอย่างไรให้มันครอบงำจิตใจตัวเราให้มากขึ้นกว่าเดิม..
เคยไปบวชที่วัดธรรมกายค่ะ.. พระท่านแจ้งว่า ยุงกัด ให้เอามือปัดนะ... โอ้ย ขาลายหมดเลย... หลวงพ่อ แล้วถ้าในกรณีนี้เราจะทำอย่างไรคะ
(แอบถามแทนพี่ตี๋เรื่องหมัดหมาด้วยหละ)