(http://images.torrentmove.com/il/a0025654pic1.jpg) (http://images.torrentmove.com/show.php?id=14741654c112cd5034b29eaf8182e1c9)
(http://img.ihere.org/uploads/4d64739cb3.jpg) (http://img.ihere.org)
แท่งเหล็กเก่าคร่ำคร่า ที่เห็นในรูป ลักษณะคล้ายตะปูเก่า นั้น เป็นของดีแต่โบราณมาแล้วครับ เรียกกันว่า ตะปูสังฆวานร
ตะปูสังขวานร นั้น นับเป็นวัตถุมีดีในตัวเครื่องรางกันภูตผี
ในอดีตเกจิอาจารย์ผู้มีวิชาอาคาแก่กล้า เมื่อต้องการจะทำหารสร้างมีดหมอ หรืออาวุธใดๆ
ที่ใช้ในการป้องกันภูตผีปีศาจ หรือคุณไสยต่างๆ สิ่งที่จะขาดมิได้เลยก็คือตะปูสังขวานรครับ
เนื่องจากมีอานุภาพในการป้องกันภูตผี คุณไสยต่างๆ สิ่งอัปมงคลทั้งหลาย ได้ผลชัดเจน
ตะปูสังฆวานร คือ อะไร ?
ตะปูสังฆวานร หรือที่เรียกกันว่า ชินสังฆวานร เดิมเป็นวัสดุที่สร้างขึ้นจากโลหะผสมตระกูลดีบุก
ซึ่งอาจจะมีตัวโลหะเจือที่เป็นกลุ่มของสังกะสี ตะกั่ว ปรอทและอื่นๆ นำมาใช้ประโยชน์เป็นตัวยึดโครงสร้างไม้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโครงสร้างของวัด หรือปราสาทราชวัง
ในสมัยอยุธยายังไม่มีตะปูหรือน๊อตในการสร้างโบสถ์ วิหาร สมัยนั้นจึงใช้ชินเขียวทำเป็นตะปู
นำมาเป็นตัวตอกสลัก โดยเทและทำเป็นแท่งกลม แท่งเหลี่ยม ปลายแหลม เรียกว่า ตะปูสังฆวานร
ใช้ตอกยึดเสนานะและถาวรวัตุในวัด
ตลอดอายุการใช้งานอันยาวนาน ตะปูสังฆวานรได้ผ่านศาสนพิธีการสวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น
สวดพระปาติโมกข์ และการสวดญัตติเวลาที่มีการบวชพระ
อีกทั้งหลวงพ่อ หลวงปู่ ในสมัยนั้นก็มักจะนิยมปลุกเสกวัตถุมงคลในโบสถ์สม่ำเสมอ
เมื่อเสนานะโบสถ์ วิหาร ชำรุด ปรักหักพังลง โบราณจารย์ผู้ชาญฉลาดเล็งเห็นว่า
ตะปูสังฆวานร นั้นได้ผ่านกาลเวลา และผ่านการปลุกเสกตลอดมา รวมถึง ได้ผ่านพิธีการทางสงฆ์ต่างๆ มาเป็นระยะเวลายาวนาน
จึงเชื่อว่าน่าจะเต็มไปด้วยพลังพุทธคุณต่างๆ นั่นเอง จึงได้นำมาหลอมละลายเพื่อผสมผสานในการสร้างพระเนื้อชิน
ยิ่งไปกว่านั้นท่านยังนิยมนำมาตอกสะกดภูติผีปีศาจได้ผลยิ่งนัก ต่อมาจึงใช้เป็นส่วนผสมในการสร้างมีดหมอหรือมีดอาคมต่างๆ
เนื่องจากสมัยก่อนไม่นิยมนำของวัดเข้าบ้านโดยตรง
ต้องแปรสภาพหรือสร้างขึ้นใหม่เสียก่อน เป็นมีดหมอหรือพระเครื่องเนื้อชิน จึงจะสบายใจกัน
ทุกวันนี้ ถ้าใครมีไว้ติดตัว ติดบ้าน ก็มั่นใจได้ว่า มีของดี ที่ทรงคุณค่าและอานุภาพในตัวพร้อมสรรพ ทีเดียวครับ
ภาคผนวก….
ความเป็นมาของ "สังขวานร" หรือ "สังฆวานร"
เกิดจากพญาวานรตนหนึ่งซึ่งลงมาจุติเกิดในภพภูมิของมนุษย์ แล้วเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา
แต่ก็ยังมิวายที่จะติดใจหลงไหลในฤทธิ์อำนาจของตนเองที่ติดตัวมาตั้งแต่ อดีตชาติ
เมื่อเข้ามาบวชเรียนแล้ว พญาวานรก็ยังชอบที่จะใช้ฤทธิ์ใช้อำนาจที่มีอยู่เดิม
ในการเหาะเหิรเดินอากาศเพื่อที่จะไปเก็บรวบรวมเหล็กไหลธาตุ(สีขาวนวล) ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศธาตุ
ซึ่งมิได้ถูกเทพ-เทวาอัญเชิญไปเป็นฐานพระเกตุแก้ว จุฬามณี(ฐานของพระเกตุแก้วจุฬามณีเป็นวัชรธาตุ)
เมื่อเก็บรวบรวมเหล็กไหลธาตุได้ตามต้องการแล้ว พญาวานรก็นำไปหลอมละลายเข้ากับเงินยวง หรือเงินบริสุทธิ์
แล้วทำการประจุพลังปลุกเสกอริยธาตุขึ้นมาใหม่ เพื่อให้มีฤทธิ์มีอำนาจตามที่พญาวานรต้องการ
จากนั้นจึงนำไปเก็บไว้ในถ้ำลึกที่ตนอาศัยอยู่เพื่อใช้ในการทดสอบฌานสมาบัติ และฤทธิ์อำนาจของตัวเอง
ความติดในฤทธิ์อำนาจจึงทำให้พญาวานรไม่เจริญก้าวหน้าในทางธรรม
เพราะมัวแต่หลงไหลยึดมั่นถือมั่นในฤทธิ์อำนาจ เมื่อถึงเวลาธาตุ 4 ขันธ์ 5 ของพญาวานรแตกดับไป
แต่ด้วยจิตที่ผูกพันหวงแหนในธาตุกายสิทธิ์ที่ตัวเองสร้างขึ้นมา ทำให้จิตวิญญาณของพญาวานรติดตามไปดูแล
ธาตุกายสิทธิ์นั้นไม่ให้ได้ตกไปอยู่ในมือของหมู่มารที่มีอคติต่อพระพุทธศาสนา
ดังนั้นแร่สังฆวานรจึงเกิดจากเหล็กไหลขาวที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ ถูกนำมาหุงใหม่บวกกับฤทธิ์ฌานสมาบัติของพญาวานรเข้าไปรวมด้วย เราจึงเรียกธาตุกายสิทธิ์นี้ว่า "สังฆวานร" หรือบางคนก็เรียก "สังขวานร" โลหะชนิดนี้มีสีเงินยวง ขาวนวลกว่าเหล็กไหลขาวทั่วไป
เพราะสังฆวานรมีฤทธิ์อำนาจในการป้องกันศัตรูหมู่มารและภัยพิบัตินานา ประการ มิให้เข้ามากร้ำกรายลุกร้ำสถานที่นั้น ๆ ได้
โดยมีคาถากำกับเอาไว้ว่า "นะมะหะนุ วะลุสังหะ" จึงมีฤทธานุภาพเหมือนกับหนุมาน
แต่ที่แตกต่างกันก็คือธาตุกายสิทธิ์นี้มีบารมีธรรมขั้นสูงกำกับอยู่
นั่นคือมีบารมีธรรมของเหล่าอริยสงฆ์ที่ตั้งใจลงมาช่วยเหลือเกื้อกูลต่อพระ พุทธศาสนา ให้หลุดรอดจากเหล่าหมู่มารทั้งหลาย
บวกกับฤทธานุภาพของพญาวานร จึงทำให้แร่สังฆวานรนี้มีอานุภาพอย่างยิ่ง
ขอบคุณที่ติดตามอ่าน ครับ
ที่มาของข้อมูล
บทความของ คุณปรีชา เอี่ยมธรรม
พี่ metalman เวบร่มโพธิ์ไทร http://romphosai.com/forums/forum7/thread1792-2.html ไว้ ณ ที่นี้ ครับ