กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 28 พ.ย. 2552, 05:19:28
-
21 กรกฎาคม 2545
บ่่อน้ำทิพย์เจริญธรรม ภูเก้ายอด แม่ฮ่องสอน
ออกเดินทางขึ้นดอยมาพร้อมกัน มานั่งพักรอหมู่คณะที่จุดพักจุดแรก
แล้วออกเดินทางกันต่อจนถึงจุดพักต่อไปคือที่คอกวัวป่าสน ก่อนที่จะแบ่ง
หมู่คณะออกเป็น 4 ชุด เพื่อให้สะดวกในการเดินทาง ไม่ต้องเดินรอกัน
ชุดแรก เป็นโยมกระเหรี่ยงสองคนที่ลงมาช่วยขนสัมภาระ ให้ออกเดินทางไปก่อน
เพราะพวกเขามีความชำนาญในเส้นทาง และมีร่างกายที่แข็งแรง
ชุดที่สอง เป็นพระที่เคยอยู่จำพรรษาบนดอยมาแล้ว ร่างกายของท่านปรับได้แล้ว
กับสภาพอากาศบนดอยและคุ้นเคยกับเส้นทางบนดอยแล้ว
ชุดที่สาม คือตัวเราซึ่งเคยเดินผ่านเส้นทางสายนี้มาแล้ว มีความเคยชินกับสภาพบนดอย
ปรับร่างกายและลมหายใจ ในการเดินบนที่สูงได้แล้ว
ชุดที่สี่ เป็นพระที่ยังไม่เคยเดินผ่านเส้นทางสายนี้และยังไม่สามารถที่จะสะภาพร่างกาย
และระบบการหายใจ ในการเดินบนที่่สูง ทำให้เดินช้าและต้องหยุดพักเกือบตลอดเวลา
ออกจากจุดพักที่คอกวัวป่าสนเวลา 16.30 น.ลดน้ำหนักสัมภาระ เหลือเพียงย่ามบริขารใบเดียว
ของอื่นโยมกระเหรี่ยงช่วยแบกไปหมดแล้ว ทำให้เดินสะดวกเพราะไม่ต้องแบกน้ำหนักมากเกินไป
เดินถึงดอยหัวช้างฝนตกหนักมาก ซึ่งจะหยุดพักก็ไม่ได้เพราะไม่มีที่หลบฝนและอากาศก็เริ่มจะหนาว
เลยตัดสินใจลุยเดี่ยวฝ่าฝนเดินลงไปจนถึงป่าไผ่ อากาศมืดลงพอดี ไฟฉายก็ไม่ได้ติดตัวมาเพราะว่าติดไปกับโยม
กระเหรี่ยงชุดแรกแล้ว อาศัยสายตาเดินฝ่าฝนและความมืดไปเรื่อยๆจนถึงที่ลำธาร ตกใจเมื่อได้ยินเสียงน้ำที่ไหลแรง
เพราะฝนตกหนัก หาทางข้ามห้วยจนได้ เดินตัดไร่เก่าขึ้นดอยไปจนถึงธุดงคสถานบ่อน้ำทิพย์เจริญธรรมในเวลาประมาณ
20.30 น. เปียกทั้งตัวเพราะฝนตกมาตลอดทาง หนาวมากต้องรีบเปลี่ยนผ้าหาน้ำอุ่นมาฉันเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
จัดของเข้าที่พัก นอนรอหมู่คณะชุดที่สี่ที่ยังมาไม่ถึง เป็นห่วงพวกเขาเพราะฝนตกหนักและค่ำมืดแล้วด้วย รอจนดึกจนหลับไป
ตื่นขึ้นมาตอนตีสาม ออกไปเดินดูที่ศาลายังไม่เห็นใครมา รู้สึกเป็นห่วงเขา ตอนเช้าออกบิณฑบาตร ฉันเช้าแล้วก็ออกไปตามพวกเขา
ไปเจอหมู่คณะที่ลำธารเลยหมดความกังวลเพราะพวกเขาปลอดภัยดี เพราะฝนตกหนักและอากาศมืดเดินลงเขาไม่สะดวกพวกเขาจึง
ตัดสินใจนอนพักกันที่ป่าไผ่หลังจากลงจากดอยหัวช้างมาได้ระยะหนึ่ง การเดินทางขึ้นดอยเพื่อมาจำพรรษาปฏิบัติธรรมก็ผ่านไปด้วยดี
ให้หมู่คณะไปพักผ่อนกัน เพราะเดินทางมาเหนื่อยกันทุกคน พรุ่งนี้จึงจะประชุมกันเพื่อแบ่งพระออกไปอยู่ตามดอยต่างๆ...
...
:059:ว่างๆจึงนำบันทึกเก่าๆที่เขียนไว้มาอ่านดู ทำให้เรารู้ว่าที่ผ่านมานั้นเราได้ทำอะไร อยู่ที่ไหน สภาวะจิตเป็นอย่างไร
วันเวลาที่ผ่านไป มีอะไรเกิดขึ้นกับเราบ้าง ความเจริญในธรรมก้าวหน้ายิ่งขึ้น หรือเสื่อมถอยลงมา ศรัทธาในธรรมของเรายังมั่นคง
อยู่หรือไม่ เมื่อเราได้อ่านบันทึกของเราแล้วนำมาคิดพิจารณา มันมีคุณค่าแก่ตัวเรามากมาย จึงขอนำบันทึกที่ได้เขียนไว้
มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นตัวอย่างของการเขียนบันทึกการเดิน...ท่านละเขียนบันทึกของท่านรึยัง..?
เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต-แด่มวลมิตรทุกผู้คน
รวี สัจจะ-วจีพเนจร-คนรอนแรม-สมณะชายขอบ
๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ เวลา ๐๕.๑๗ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
:059:หมายเหตุ...โปรดติดตามตอนต่อไป...การใช้ชีวิตของพระดอย
-
กราบนมัสการขอบพระคุณที่นำบันทึกการเดินทาง มาให้ได้ศึกษาครับ...
...ทางเดินที่มีขวากหนาม จะทำให้กายและใจของเราแข็งแกร่งขึ้น....
...คนที่เคยเดินแต่บนพรม ยากนักที่จะเข้าใจชีวิต...
-
นับถือ :054: :054: :054:
-
บางครั้งเมื่อเราอยู่ในที่ที่สมบูรณ์ มีทุกอย่างพร้อม มันอาจจะทำให้เราติดสุข ไม่เห็นทุกข์
แต่เมื่อเรามาอยู่ในที่ที่ทุรกันดาร ขาดแคลนทุกสิ่งทุดอย่าง เราจะได้เห็นทุกข์ เห็นความจริง
เห็นกิเลส ตัณหาของเรา ความอยากของเราที่เคยได้รับการตอบสนองจากที่ที่มีพร้อมทุกอย่าง
แต่เมื่อมาอยู่ในที่ที่ห่างไกลความเจริญ ตัณหาความอยากนั้นมันไม่ได้รับการตอบสนอง
เราจะได้เห็นถึงความดิ้นรนทะยานอยากของจิตเรา " ทุกข์ไม่มา ปัญญาไม่มี บารมีไม่เกิด "
เรียนรู้ทุกข์จากทุกข์ เรียนรู้ตัณหาด้วยตัณหา ไม่ใช่อ่านแต่ในตำราแล้วจินตนาการเอา
เราต้องเรียนรู้ด้วยของจริงในสิ่งที่เห็นและเป็นไป...จึงจะได้เห็นของจริง...
-
ชีวิตไม่มีอุปสรรค์ก็จะไม่รู้จักความสุขที่แท้จริง ขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เล่าสู่กันฟังครับ สาธุ ... :054:
-
ชีวิต คือ การเดินทาง
เส้นทาง ที่มีอุปสรรค ขวากหนาม มีเพื่อให้ฟันฝ่า
เส้นทาง ความสุข ความสมหวัง มีเพื่อให้กำลังใจ
เมื่อนำสองเส้นทางมารวมกัน
ทำให้เรียนรู้ และชำนาญขึ้น เพื่อให้ถึงจุดหมาย
แต่ชีวิตก็ยังคงต้องเดินทางต่อไปเรื่อย ๆ ให้ถึงฝั่งฝัน
กราบนมัสการขอบพระคุณ ที่นำบันทึกการเดินทางมาให้ได้ศึกษาคะ :054:
-
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ชีวิตที่เต็มไปด้วยปัญหา การเดินในแต่ละก้าวเต็มไปด้วยขวกหนาม ถ้าไม่มีเข็มทิศชีวิตที่ดี ถึงจะหลุดดงขวากหนามมาได้ ในไม่ช้าก็อาจหลงเข้าไปอีก แต่หากคนเรามีเข็มทิศที่ดี ก็นำพาเราหลุดจากขวากหนามและจะนำพาชีวิตเราเดินไปข้างหน้าโดยไม่มีวันหลงกลับเข้าไปในดงขวกหนามอีกเลย
ปล.ชีวิตในวันนี้ของผม ผมพบเข็มทิศชีวิต(ไตรสรณคมน์ )ที่จะนำพาชีวิตผมแล้วครับ