กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: ธรรมะรักโข ที่ 08 ม.ค. 2553, 02:12:09
-
(http://img682.imageshack.us/img682/255/1f2ce1.jpg)
วัดบวรนิเวศวิหาร บางลำพู กรุงเทพฯ ในห้วงเช้าอากาศครึ้ม สายหมอกโปรยปรายบางเบา จิตแจ่มใสมาก และได้หวนระลึกถึงพระคุณของพระอาจารย์ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระองค์เป็นพระภิกษุที่สำรวมในจริยวัตรอันงดงามยิ่ง
ปีนี้พระองค์มีพระชนมายุ ๙๖ ชันษาแล้ว แต่ผิวพรรณบารมีของพระองค์ยังผ่องใสและเป็นที่ปีติยินดีแด่ผู้ที่ได้เฝ้ากราบอยู่เสมอ พระองค์ไม่เคยทรงทอดทิ้งธุระในกิจการสงฆ์เลย ให้ความสนพระทัยสม่ำเสมอ แม้ในกาลปัจจุบันนี้ก็ยังทรงปฏิบัติของพระองค์อย่างเงียบๆ เรียบง่ายเสมอมา ทรงเป็นพระภิกษุที่ปฏิบัติกรรมฐานควบคู่กับการศึกษาทางด้านปริยัติธรรมมาแต่ครั้งเป็นพระหนุ่มเณร ดังนั้น จิตของพระองค์จึงมากด้วยอานุภาพอะไรบางอย่างที่น่าพิศวงนัก
แต่เรื่องราวในห้วงทำนองนี้น้อยนักที่จะมีผู้ใดนำมากล่าวถึง สิ่งที่นำมาเขียนเล่าสู่กันฟังในคราวนี้ ส่วนหนึ่งได้ฟังจากผู้ที่สนองงานพระองค์มาหลายสิบปี หลายท่านหลายคน ทั้งผู้ที่เป็นบรรพชิตและฆราวาส
คงจำได้ข่าวใหญ่หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับเมื่อหลายสิบปีก่อน ไฟไหม้ที่บางลำพู หลังวัดบวรนิเวศ ซึ่งตรงนั้นชาวบ้านอาศัยกันอยู่อย่างเนืองแน่ ไฟได้เริ่มลุกขึ้นโหมแดง เสียงรถน้ำของตำรวจหลายสิบคันมุ่งหน้ามาที่ซอยนี้ แต่ทว่ายังเข้าไม่ได้เพราะซอยเล็กมาก
มีเรื่องเล่ากันว่า ในวันนั้นพระองค์ทรงประทับอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร ไม่มีภารกิจเสด็จไปไหน เมื่อทรงทราบข่าวว่ามีไฟไหม้หลังวัด ทรงดำเนินลงจากพระตำหนักมาทอดพระเนตรไปยังจุดที่เกิดเหตุอย่างจิตใจที่ตั้งมั่น ไม่มีผู้ใดทราบได้ว่าพระองค์ทรงดำริอะไร แม้แต่พระผู้ที่ติดตามในวันนั้น นายตำรวจที่ติดตามในวันนั้นเองก็ไม่ทราบ
แต่ความอัศจรรย์ของอานุภาพแห่งธรรมได้ปรากฏ เมื่อพระองค์ละสายตาจากการทอดพระเนตรที่เพ่งมองด้วยจิตตั้งมั่นแล้วไม่ช้าไม่นาน ไฟที่ลุกโชตินั้นค่อยๆ สงบลงอย่างช้าๆ ทีละน้อยทีละน้อย ทั้งที่รถน้ำยังไม่ได้ทำการฉีดน้ำสักหยด
ข่าวได้แพร่สะพัดไปอย่างอื้ออึงว่า ท่านเจ้าประคุณสมเด็จอธิษฐานจิตดับไฟหลังวัดบวรนิเวศ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่อยู่อาศัย นี่ก็นับได้ว่าเป็นความอัศจรรย์ของอานุภาพแห่งธรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งจะปรากฏและมีได้ต่อผู้ที่มีศีลและธรรมอันบริสุทธิ์
พระองค์เคยตรัสสอนเหล่าภิกษุนวกะบ้างพอสังเขปในเรื่องลักษณะเหตุแห่งธรรม ทรงตรัสว่า หากเรามีศีลบริสุทธิ์ มีสมาธิที่สงบ จิตตั้งมั่นดีแล้ว อะไรๆ ก็ปรากฏเกิดขึ้นได้ สิ่งเหล่านั้นก็เป็นธรรมะชนิดหนึ่งเหมือนกัน
ด.ต.ปัญญา เกิดท้วม ตำรวจในสังกัดกองปราบปราม มีหน้าที่ถวายการอารักขาด้านการจราจร ในการเสด็จสนองงานต่อพระองค์มาหลายสิบปี เล่าให้ฟังว่า ผู้ใดก็ตามที่ได้มากราบพระองค์แล้วจะมีความรู้สึกเป็นสุข สงบ และร่มเย็นในจิตใจเป็นพิเศษ เชื่อเหลือเกินว่าคงเป็นเพราะอำนาจแห่งบารมีธรรมของพระองค์ท่าน แม้วันนี้ก็ยังทรงเป็นผู้ที่บารมีธรรมอันยิ่ง ทรงสุขภาพแข็งแรง รับรู้เหตุการณ์ต่างๆ ทั้งหลายอย่างดี เพียงแต่ทรงเคลื่อนไหวพระองค์ช้าลง คิดว่าเป็นเรื่องปกติของผู้สูงอายุที่เป็นเหมือนๆ กัน
พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีของพระภิกษุยิ่งนัก ทรงแสดงออกถึงสิ่งที่เป็นไปตามพระธรรมวินัย ในบางคราวทรงพบกับพระเถระที่มีพรรษามากกว่าแต่ทางด้านสมณศักดิ์น้อยกว่า พระองค์ก็ทรงกราบพระเถระรูปนั้นโดยยึดถือตามหลักพระธรรมวินัย ตามที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติมากกว่าสมณศักดิ์ เรื่องราวปาฏิหาริย์แห่งสมเด็จยังมีอีกมาก ซึ่งจะค่อยๆ นำมาเล่าฝากคุณผู้อ่านต่อไปในโอกาสหน้า.
ขอขอบคุณที่มาของข้อมูล...โดย ราช รามัญ http://www.thaipost.net/tabloid/140209/239
-
สาธุ