กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: pepsi ที่ 19 ก.ย. 2553, 06:02:09

หัวข้อ: กลอน ครับ..(ถ้ามั่วๆไม่ว่ากันนะครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: pepsi ที่ 19 ก.ย. 2553, 06:02:09
(http://img684.imageshack.us/img684/1945/luvver.gif)

ใครอยากต่อกลอนเพี้ยนๆกับผมบ้าง
อยู่ว่างๆไม่มีไรทํามันหงอยเหงา
กินทั้งเบียร์กินทั้งเหล้าแล้วนั่งเมา
เพราะความเมาจึงได้เขียนขึ้นมาเลย


ใครอยากเขียนหรือจะบ่นหรืออยากด่า
ผมไม่ว่ากระทู้ผมเหมาเต็มที่
ทั้งเดือดร้อนทั้งเจ็บใจบอกมาที
ณ.ห้องนี้กระทู้ผมเท่านั้นพอ


กระทู้ผมขอต้อนรับและเก็บให้
ความในใจต่างๆอึดอัดหนา
ขอระบายและพูดมันให้ออกมา
แล้วขอลาเรื่องอดีตเท่านั้นพอ.

อันบทเขียนกว่าจะกลั่นออกมาได้
มันไม่ง่ายถ้าใจเข้าไม่ถึง
ถ้าไม่เมาผมเองยังนั่งมึน
เข้าไม่ถึงบทเขียนจริงๆเลย



อยากจะเขียนบทกลอนตอนไม่เมา
สมองเรามันไม่ไปถึงไหนหนา
มานั่งคิดแล้วก็คิดทุกเวลา
มันไม่พาสมองแล่นออกมาเลย


เพราะอะไรเราถึงเป็นขนาดนี้
กลัวพี่ๆว่าผมเมาแบบนี้หรอ
บอกตรงๆว่าผมเมาและไม่เรอ...(เอิ๊ก...)
และไม่เผลอในการพิมพ์เท่านั้นพอ

 

อันสุราผมก็รู้มันไม่ดี
อยากจะหนีห่างไกลและไม่สน
มันขึ้นอยู่กับคนดื่มของตัวตน
แต่บางคนนั้นสุภาพน่ารักเอย





คุยเรื่องเมาหรือเรื่องรักได้ทั้งนั้น
ผมไม่อั้นในคําพูดของผมครับ
ทั้งเรื่องรักและเรื่องเมามาเป็นตับ
ถ้าจะนับเรื่องอกหักได้ทันที


คุยเรื่องผีก็ได้นะครับท่าน
ผมก็หวั่นคุยมากๆนอนผวา
กลัวผีเปรตผีกระสือโผล่ออกมา
แล้วจะพาขนหัวลุกตกเตียงเอย


จิปาถะอะไรรับฟังหมด
อรัมพบทออกเป็นกลอนไม่ว่าหนา
เขียนๆได้เขียนๆไปต่างๆนาๆ
แต่อย่ามาชวนกินเหล้าทันทีเลย.




อ่านกันสนุกๆ...อย่าคิดมากนะครับ.. เพราะผมแต่งกลอนไปแบบ งูๆปลาๆ สัมผัสบ้าง ไม่สัมผัสบ้าง..
ต้องกราบขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย
 
หัวข้อ: ตอบ: กลอน ครับ..(ถ้ามั่วๆไม่ว่ากันนะครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: pepsi ที่ 19 ก.ย. 2553, 07:50:47
ต่อครับ....
ลมนั้นแรงมาจากไหนใครรู้บ้าง
มันไม่ต่างกับพายุโหมกระหน่ำ
ความร้อนสูงเพราะความกดดันต่ำ
เลยกระหน่ำเป็นแรงลมโถมใส่มา

บ้านเรือนอันน้อยนิดปลิวกระจาย
และมลายกลายเป็นเศษที่ปลิวว่อน
แต่ละคนต่างวิ่งหนีกันอลวน
นั่งตรอมตรมและเสียดายกับเหตุการณ์

ทั้งแรงลมโถมใส่หาหยุดไม่
ทําอย่างไรให้ชีวิตปลอดภัยหนา
ลมเช่นนี้มันเกิดขึ้นไม่ธรรมดา
เพราะมันพาลมร้อนมาด้วยกัน


ที่ผมเขียนตอนนี้ลมแรงจัด
ผมนั่งจัดโต๊ะทํางานที่เคลื่อนไหว
เพราะแรงลมนั้นมันแรงกลัวปลิวไป
และมัดไว้อยู่กับเสาของบ้านเลย


ถ้าฝนตกลงมาพอเย็นบ้าง
ช่วยชะล้างพื้นดินให้หายร้อน
และชาวนาชาวสวนคงโห่ร้อง
คงไม่ต้องขาดทุนป่นปี้เอย


อันฝนแห้งแล้งน้ำสาหัสจัด
ใครจะคัดพืชผลส่งไปขาย
ถ้าขาดฝนน้ำไม่มีต้นไม้ตาย
น่าเสียดายผลผลิตที่เสียไป


มือนั้นพิมพ์แล้วนั่งคิดก็สงสาร
อันข้าวสารที่เรากินจากเขาหนอ
กินทิ้งกินขว้างนั้นยังไม่พอ
ยังไม่ห่อกลับบ้านเสียดายจริง

วันนี้ผมขอวางบทกลอนเท่านี้ก่อน
ผมขอผ่อนอารมณ์ให้สดใส
เกิดเหตุการณ์แบบนี้ผมต้องไป
หยิบแก้วใสเติมเหล้าสักนิดเอย.........จบครับ.
หัวข้อ: ตอบ: กลอน ครับ..(ถ้ามั่วๆไม่ว่ากันนะครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: berm ที่ 20 ก.ย. 2553, 11:52:27
[shake]ขอมั่วด้วยคนนะครับ....(ยืมจากบทกลอนของท่านสุนทรภู่ :002:)  ไม่เมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก.สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน.ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป......แต่เมาใจนี้ประจำทุกคำ่คืน :005:[/shake][/size]
หัวข้อ: ตอบ: กลอน ครับ..(ถ้ามั่วๆไม่ว่ากันนะครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: Tiger Number NINE ที่ 20 ก.ย. 2553, 01:45:16
 ขอขยายต่อจากท่าน berm ครับ โดยนำมาจาก นิราศ ของมหากวีเอกสุนทรภู่

ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันขโมง       มีคันโยงผูกสายไว้ปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเชี่ยวอกเรา      ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย
ไม่เมาเราแล้ว แต่เรายังเมารัก       สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป         แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน
หัวข้อ: ตอบ: กลอน ครับ..(ถ้ามั่วๆไม่ว่ากันนะครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: Akekaluck ที่ 25 ก.ย. 2553, 10:54:42
เจริญสุรา สมาธิ ปัญญา...เอก เมืองราษ.