กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => ธรรมะ => ข้อความที่เริ่มโดย: somjung1900 ที่ 23 พ.ค. 2554, 05:53:04
-
คือว่าตอนนี้ผมอายุ17นะครับ
แต่ตอนผมอายยุ ประมาน 15 ช่วงนั้นเกเรมากครับ เถียงแม่ด้วย
แต่ไม่เคยด่า นะครับ อยาก จะทราบว่าถ้าผมจะทำตัวใหม่
ควรจะเริ่มยังไงดีครับ !
-
กราบเท้าขอขมาท่านก่อนแล้วกัน ว่าลูกเคยร่วงเกินทั้ง กาย วาจา ใจ ลูกขออโหสิกรรม
-
ขอบคุณมากครับ!
-
คือว่าตอนนี้ผมอายุ17นะครับ
แต่ตอนผมอายยุ ประมาน 15 ช่วงนั้นเกเรมากครับ เถียงแม่ด้วย
แต่ไม่เคยด่า นะครับ อยาก จะทราบว่าถ้าผมจะทำตัวใหม่
ควรจะเริ่มยังไงดีครับ !
เยี่ยมมากครับน้อง เมื่อผิดพลาดแล้วคิดจะปรับปรุงแก้ไขให้มันดีขึ้น
อะไรที่เราทำเคยทำไม่ดีหรือทำผิดพลาด จงจำไว้เป็นบทเรียน และอย่าให้มันเกิดขึ้นอีกครั้ง
ต่อไปก็ทำแต่สิ่งดีดี ไม่ว่าจะเล็กน้อย หรือ มากมาย ก็ทำไปเถอะครับ
อาจจะเริ่มอย่างที่ท่าน kriengkri P. บอกก็ได้ครับ และอาจจะทำดีอย่างอื่นไปด้วย เช่น ตั้งใจเรียน ช่วยงานที่บ้าน เป็นต้นครับ
คิดดี พูดดี ทำดี และสิ่งดีดีจะย้อนกลับมาหาน้องแน่นอนครับ
-
ผิดแล้วรู้จักสำนึกก็โอเคแล้วครับ
อย่าทำให้ผิดอีกแล้วกันครับ
-
ต้องขอบคุณเว็บไซต์บางพระเลยครับ!
รู้สึก เสื่อมใสมากเลยครับ
ขอบคุณรุ่นพี่ทุกคน เลย นะ ครับ :016:
-
:053:ดีมากครับรู้ว่าผิดเเล้วปรับปรุงเเก้ไข ขอชื่นชมจริงๆ สิ่งเเรกที่สำคัญคือพ่อเเม่นะอย่าทำให้ท่านเสียใจ :053:
-
แค่เริ่มต้นคิด ก็ประเสริฐเเล้ว ครับ :002:
-
ขอบคุณศิษย์พี่ทุกท่านครับ ที่ให้คำแนะนำ!
-
ถ้าลูกพี่โตเท่าน้องแล้วคิดได้ในสิ่งดีๆอย่างนี้ พี่คงภูมิใจและดีใจมากๆเลยครับ บารมีครูบาอาจารย์รักษานะครับน้อง
-
ที่ผมคิดได้เพราะ ว่า เว็ปไซค์ วัดบางพระครับ
ขอบคุณ พี่ๆ ทุกคน มากครับ!
-
ชีวิตที่ไหลลื่นไปกับธรรมะ : ทาน ศีล ภาวนา
วันพุธ ที่ 22 มิถุนายน 2554 เวลา 0:00 น
วันพระ-วันศุกร์ที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔ : อย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งวัน ตั้งใจถือศีล ๕ ศีล ๘ (ศีลอุโบสถ) ให้บริสุทธิ์ เพื่อความเจริญของตัวเอง
ในแต่ละวันถ้ายังไม่สะดวกที่จะร่วมสร้างทานบารมีกับกิจกรรมต่าง ๆ ข้างบน...หากระปุกมาสักใบ ตั้งจิตอธิษฐานว่าลูกจะขอทำทานทุกวัน แล้วตั้งใจหยอดเงินลงกระปุกวันละบาทสองบาท หรือจะมากกว่านั้นก็แล้วแต่จะสะดวก...พอมีโอกาสที่จะทำทาน...ที่ไหนก็ตาม...เราก็จะมีเงินไปทำได้อย่างสะดวกใจ โดยที่ไม่ต้องเบียดเบียนตัวเองหรือคนอื่น...นอกจากนั้นก็พยายามรักษาศีลให้ได้อย่างน้อยวันละข้อสองข้อ (ถ้าไม่เคยรักษาเลย) หรือรักษาศีล ๕ ให้ได้สักชั่วโมง (ช่วงอาบน้ำ หรือช่วงที่ว่าง ๆ ก็ได้) หรือถ้าจะให้ได้นาน ๆ ก่อนจะนอนตั้งจิตขอรักษาศีล ๕ ศีล ๘ ก็ได้กำไรวันละหลายชั่วโมงทีเดียว...ทำไปเรื่อย ๆ ทั้งกลางวันกลางคืน แล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาไป จิตเขาจะค่อย ๆ ชินกับศีลไปเอง...ถ้าจะหากำไรเพิ่มให้ตัวเองอีกสักนิด ก่อนนอนไหน ๆ ก็ตั้งใจรักษาศีลแล้ว...พอจะนอนก็ทำใจสบาย ๆ นึกถึงภาพพระพุทธรูปงาม ๆ
ที่เราชอบ แล้วภาวนา พุท-โธ...พุท-หายใจเข้า โธ-หายใจออก ทำไปเรื่อย ๆ จนหลับไป... พอตื่นมาปุ๊บ นึกปั๊บทันที... พุท-หายใจเข้า โธ-หายใจออก... ทำจนจิตสบายพร้อมลุยกับโลกต่อ...
แล้วมาดูกันสิว่า...อานิสงส์ หรือผลดีที่จะเกิดจากสิ่งที่เราทำทั้ง ๓ อย่างนี้มีอะไรกันบ้าง.
ชนินทร
ที่มา
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&contentId=146515&categoryID=671
-
คือว่าตอนนี้ผมอายุ17นะครับ
แต่ตอนผมอายยุ ประมาน 15 ช่วงนั้นเกเรมากครับ เถียงแม่ด้วย
แต่ไม่เคยด่า นะครับ อยาก จะทราบว่าถ้าผมจะทำตัวใหม่
ควรจะเริ่มยังไงดีครับ !
:053:น่ารักมากค่ะคุณน้องกราบเท้าท่านแล้วก็อย่าลืมล้างเท้าให้ท่านด้วยนะค๊ะ
รับรองจากนี้ไปชีวิตน้องจะเจอแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตแน่นอนขอให้ปฏิบัติต่อไปทำดีกับ
ท่านเยอะๆทำให้ท่านมีความสุขชีวิตคุณก็จะมีความสุขแน่นอน
*** เค้าว่ากันว่าคนที่รักคุณพ่อคุณแม่ดูแลเอาใจใส่ตลอดไม่ทำให้ท่านเสียใจจะเป็นคนที่สมหวังในความรักแน่นอน :077: ***
-
:053:ดีใจด้วยคับที่น้องตั้งใจปฎิบัติตัวใหม่ พระที่ดีที่สุดที่ควรเคารพบูชาคือคุณพ่อคุณแม่นั่นแหละประเสริฐแล้ว
-
:053:
-
แม่ตัวจริง...
สมัยก่อน...หลังพุทธกาล...มีเรื่องเล่าอยู่เรื่องหนึ่ง..น่าสนใจ...
เขาบอกว่า...หญิงชาวบ้านคนหนึ่ง...แต่งงานกับหนุ่มต่างถิ่น...
แต่งงานเสร็จ...ก็ไปอยู่บ้านฝ่ายชาย...แรกๆ ก็ไม่รู้สึกอะไร...
ต่อมามีลูก...
พอคลอดลูกออกมา...เธอจึงเข้าใจว่า...การคลอดลูกนี่มันเจ็บปวดแค่ไหน...
เจ็บปวด...จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด...พอลูกร้อง...อุแว้...อุแว้...น้ำตาแม่ไหล...
แม่พึ่งเข้าใจว่า...ความรักของแม่...ที่มีต่อลูก...มันยิ่งใหญ่ขนาดไหน...
ในนาทีวิกฤตินั้น...ถ้ามีชีวิตหนึ่งที่จะต้องสิ้น...แม่ยอมตาย...เพื่อให้ลูกรอด...
แม่รักลูกสุดชีวิต...จนสามารถตายแทนได้...ถ้าลูกเป็นอะไรไป...แม่คงขาดใจตายไปพร้อมกับลูก...
ตอนที่ตัวเองอยู่กับพ่อแม่...ไม่เข้าใจความรู้สึกนี้เลย...
พอมีลูกแล้ว...ถึงรู้ซึ่ง...จึงบอกกับสามีว่า...จะขออนุญาตเดินทางไปเยี่ยมแม่...
ไปบอกให้แม่รู้...ว่าลูกเข้าใจความรักที่มีต่อลูกแล้ว...และจะมาตอบแทนบุญคุณพ่อแม่...
สามีก็อนุญาต...
ในขณะที่เดินทาง...แดดจัด...อากาศร้อนมาก...เธออุ้มลูกเดินทางไกล...ด้วยความเหนื่อยล้า...
เมื่อมาถึงริมธารน้ำ...จึงวางลูกน้อยไว้ริมตลิ่ง...ตัวเองเดินลงน้ำ...วักน้ำลูบหน้า...ลูบตัว...
ให้เย็นสบาย...คลายร้อน...หายเหนื่อย
ทันทีที่สัมผัสความเย็นสบาย...ด้วยสัญชาตญาณของแม่...ทันทีที่แม่มีความสุข...
ใจของแม่จะคิดถึงลูกขึ้นมาทันที...เธอตกใจรีบหันไปมองลูก...
เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง...กำลังอุ้มลูกของตนวิ่งหนี...ไปต่อหน้าต่อตา...
นางตกใจแทบสิ้นสติ...ใจหวิวเหมือนจะขาด...รีบวิ่งตามทั้งที่เหนื่อยล้าสุดกำลัง...และร้องเรียกให้คนช่วย...
วิ่งไล่ตามกันเข้าไปในหมู่บ้าน...
ชาวบ้านได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ...พากันออกมาดักหน้าหญิงคนที่อุ้มเด็กไว้...
เมื่อแม่ตามมาทัน...ก็ยื้อแย่งลูกกัน...ต่างคน...ต่างอ้างสิทธิ์ความเป็นแม่...
บอกว่าเด็กเป็นลูกของตน...ไม่มีใครยอมใคร...
ชาวบ้านที่มามุงดู...ไม่มีใครสามารถตัดสินได้...ทั้งสองคนมีเหตุผลน่าเชื่อ...ทั้งคู่...
จึงพามาหามโหสถ...ผู้คงแก่เรียน...หรือที่เราเรียกว่า ... บัณฑิต...
เป็นผู้มีปัญญาล้ำเลิศ...ให้ช่วยตัดสินให้...
มโหสถฟังเรื่องแล้ว...หัวเราะ...บอกว่าสบายมาก...เรื่องนี้พิสูจน์ได้ไม่ยาก...
มีวิธีหาแม่ตัวจริงได้ง่าย...จึงบอกให้ชาวบ้านเอาเชือกมาสองเส้น...
เส้นหนึ่ง...มัดไว้ที่ราวนม...ใต้แขนเด็ก...อีกเส้นหนึ่ง...มัดไว้ที่รอบเอวเด็ก...
แล้วให้ผู้หญิงสองคน...ที่อ้างว่าเป็นแม่เด็ก...ถือเชือกไว้คนละข้าง...
มโหสถบอกว่า...
เราจะนับหนึ่ง...ถึงสาม...แล้วให็หญิงทั้งสองดึงเชือก...ใครสามารถดึงเด็กไปทางด้านตัวเองได้...
แสดงว่า...รักเด็กมาก...มีความมุ่งมั่นที่อยากจะได้เด็กมาเป็นเจ้าของ...คนนั้น...คือแม่เด็ก...
แล้วมโหสถก็นับ...หนึ่ง...สอง...สาม...
พอสิ้นเสียง...หญิงทั้งสองก็เริ่มดึงเชือก...พอเชือกตึง...เด็กรู้สึกเจ็บ...ก็ร้องไห้จ้าขึ้นมาทันที...
พอลูกร้องไห้...แม่ตัวจริงตกใจ...สงสารลูกเหมือนใจจะขาด...โยนเชือกทิ้ง...แล้วร้องไห้...
ผู้หญิงอีกคน...ดึงเด็กเขยื้อนไปทางตัวเองได้...มโหสถจึงสั่งให้หยุด...
แล้วเดินไปอุ้มเด็ก...มาส่งให้กับ...แม่ตัวจริง...ที่ยืนร้องไห้อยู่...
โดยบอกว่า...
ไม่มีแม่คนไหน...ทนเห็นความเจ็บปวดของลูกได้...ทันทีที่ลูกร้อง...เธอโยนเชือกทิ้งทันที...
เธอเป็นแม่ที่ประเสริฐ...ควรได้รับโอกาสให้เลี้ยงดูเด็กคนนี้ต่อไป...
ชาวบ้านที่มุง...ไม่มีใครสามารถเถียงมโหสถได้...
ยืนน้ำตาซึมไปตามๆกัน...
เรื่องจาก : เทศนา ฮา...สุดขีด ของพระพยอม กัลยาโณ
โดย : สมคิด ลวางกูร
http://www.tamdee.net/sarakhun/data/read5dce.html?No=452
-
ขอบคุณมากครับ! โดนใจมาก
-
ขอแสดงความยินดี กับสิ่งที่คิดได้ และสิ่งดีดีที่จะเข้ามาในชีวิต
ขออนุญาตเข้ามาตอบนะครับ ผิดถูกประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
-
ดีมาก เป็นกำลังใจให้นะ น้อง
-
อาจจะเข้ามาช้าไปหน่อย ในเว๊ปอื่นๆมีหลายวิธีมาก แต่เราลองหาแบบวิธีเข้าใจง่ายมาให้น้องลองทำดู
วิธีขอขมากรรม ล้างเท้าพ่อแม่ :054:
ของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม
ซื้อเสื้อผ้า ใหม่ให้พ่อแม่ คนละ 1 ชุด
ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆ 1 ผืน
ตื่นเช้ามาไหว้พระสวดมนต์จบแล้ว
จัดหาอาหาร อย่างดีที่สุดที่พ่อแม่ชอบ ให้พ่อแม่รับประทาน
เมื่อรับประทานแล้วให้ท่านนั่งบน เก้าอี้พร้อมกัน
เอากะละมังใส่น้ำอุ่นมาล้างเท้าพ่อแม่ เอาสบู่ฟอกให้สะอาดแล้วล้างด้วยน้ำให้ สะอาด เอาผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆ
ที่ซื้อมาเช็ดให้แห้ง เอาแป้งโรยให้ทั่วให้หอม
เอาเสื้อผ้าที่ซื้อมาให้ท่าน
เสร็จแล้วพูดว่า "กรรมใดที่ลูกได้ล่วงเกินคุณ พ่อคุณแม่ ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ขอให้คุณพ่อคุณแม่อโหสิกรรมให้แก่ลูกด้วย"
เสร็จแล้วกราบเท้าท่าน 3 ครั้ง เอาเท้าท่านทั้ง 2 คน คนละข้างเหยียบที่ศรีษะเรา แล้วให้ท่านให้พรเรา นั่นแหละถึงจะล้างกรรมกันได้
ที่มา...เรื่อง "หลวงพ่อทำให้ข้าพเจ้าพบชีวิตที่รุ่งเรือง" โดย คุณ เสรี ปิ่นทอง
จากหนังสือ กฎแห่งกรรม ธรรมปฏิบัติ (ฉบับคัดลอกของ) พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม) วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
หรือจะใช้อีกบท บทขมากรรมนี้ใช้ร่วมกับพิธีล้างเท้าพ่อแม่ด้วยก็ได้
คำกล่าวขอขมาบิดา - มารดา :054:
( ตั้งนะโม 3 จบ)สัพเพปะมาเทนะ ทวารัตเย รักกะตัง สัพพัง อับปะราธัง
ขะมะถะเมพันเต มัยหัง มาตาปิตุนังวะ ปาเทวันทามิ สาทะรัง
ลูกขอกราบไหว้บูชา บิดามารดาผู้มีพระคุณ ผู้เป็นพระอรหันต์
ผู้เป็นพระพรหม เป็นเทพยดาเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของลูกทั้งหลาย
ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี อันลูกทั้งหลายได้กระทำประมาทพลาดพลั้ง
ล่วงเกินแล้ว ด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา ทั้งต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ที่เจตนาก็ตาม
มิได้เจตนาก็ตาม การกระทำใด อันลูกได้กระทำแล้ว ด้วยโลภะจริต โทสะจริต โมหะจริต
ต่อบิดามารดา ผู้มีพระคุณ ลูกได้นำมาซึ่งดอกไม้ ธูปเทียน ของหอม
กับน้ำอันบริสุทธิ์นี้ ตลอดจนทรัพย์บรรณาการ
อันหามาได้โดยยาก ลูกขอบูชาพระคุณของบิดามารดา ผู้ให้กำเนิดลูกมา
ทั้งเลี้ยงดูทะนุถนอม ให้สรรพวิชาความรู้จนเติบใหญ่
หาเลี้ยงตนได้ในปัจจุบันนี้ ลูกจักไม่ลืมพระคุณ จะตั้งตนเป็นคนดี
ให้สมกับที่ได้เกิดมาเป็นลูกพ่อแม่ ด้วยอำนาจแห่งความรัก และสัจจะวาจานี้
ลูกกราบขอขมากรรมทั้งปวง ที่ล่วงกระทำไปแล้ว นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
ขอพ่อแม่ผู้มีพระคุณโปรดเมตตา งดโทษล่วงเกินอันนั้น
เพื่อการสำรวมระวังต่อบิดามารดาในการต่อไป บุญทั้งหลายที่ลูกได้กระทำแล้ว
ขอพ่อแม่จงเป็นผู้มีส่วนในบุญของลูกด้วย ขอให้พ่อแม่จงเป็นผู้มีอายุยืน
มีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง ปราศจากทุกข์โศก และโรคภัยทั้งปวง
อยู่เป็นร่มโพธิ์ ร่มไทรของลูกทั้งหลาย เป็นเนื้อนาบุญของลูกทั้งหลายตลอดไปเทอญ
(กราบพร้อมกล่าว) กาเยนะ วาจายะวะเจ ตะสาวา มาตาปิตุคุณัง กุกัมมัง ปะกะตัง มะยายัง
มาตาปิตุ กุกัมมะ อัตจะยันตัง การันตะเร สังวะริตุง มาตาปิตะเร
ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ที่ลูกได้กระทำล่วงเกินแล้วต่อบิดามารดาผู้มีพระคุณ
ขอบิดามารดาผู้มีพระคุณ โปรดงดโทษล่วงเกินอันนั้น
เพื่อการสำรวมระวังในการต่อไป (พ่อแม่ กล่าว สาธุ..)
กราบ 3 ครั้ง ประเคนพานดอกไม้ รดน้ำที่มือ/ล้างเท้า
ที่มา www.palungjit.com
***สามารถทำได้ทุกโอกาส เพื่อความเป็นศิริมงคล*** ลองไปประยุกต์ใช้ดูนะ (หากผิดถูกประการใดขออภัย)
"มาตาปิตุโรวันทามิ" (บทกราบวันทาพ่อแม่)
-
น่านับถือนะครับ
อยากให้เด็กๆ ทุกคนเป็นแบบนี้บ้างครับ
พ่อแม่เป็นสิ่งที่ประเสริฐมากครับ
-
เป็นกำลังใจให้หนูทำในสิ่งที่ถูกต้องได้สำเร็จ
ไม่มีอะไรจะประเสริฐได้เท่ากับการทำดีกับพระในบ้านนะคะ
บุญรักษาค่ะ
-
อาจจะเข้ามาช้าไปหน่อย ในเว๊ปอื่นๆมีหลายวิธีมาก แต่เราลองหาแบบวิธีเข้าใจง่ายมาให้น้องลองทำดู
วิธีขอขมากรรม ล้างเท้าพ่อแม่ :054:
ของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม
ซื้อเสื้อผ้า ใหม่ให้พ่อแม่ คนละ 1 ชุด
ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆ 1 ผืน
ตื่นเช้ามาไหว้พระสวดมนต์จบแล้ว
จัดหาอาหาร อย่างดีที่สุดที่พ่อแม่ชอบ ให้พ่อแม่รับประทาน
เมื่อรับประทานแล้วให้ท่านนั่งบน เก้าอี้พร้อมกัน
เอากะละมังใส่น้ำอุ่นมาล้างเท้าพ่อแม่ เอาสบู่ฟอกให้สะอาดแล้วล้างด้วยน้ำให้ สะอาด เอาผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆ
ที่ซื้อมาเช็ดให้แห้ง เอาแป้งโรยให้ทั่วให้หอม
เอาเสื้อผ้าที่ซื้อมาให้ท่าน
เสร็จแล้วพูดว่า "กรรมใดที่ลูกได้ล่วงเกินคุณ พ่อคุณแม่ ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ขอให้คุณพ่อคุณแม่อโหสิกรรมให้แก่ลูกด้วย"
เสร็จแล้วกราบเท้าท่าน 3 ครั้ง เอาเท้าท่านทั้ง 2 คน คนละข้างเหยียบที่ศรีษะเรา แล้วให้ท่านให้พรเรา นั่นแหละถึงจะล้างกรรมกันได้
ที่มา...เรื่อง "หลวงพ่อทำให้ข้าพเจ้าพบชีวิตที่รุ่งเรือง" โดย คุณ เสรี ปิ่นทอง
จากหนังสือ กฎแห่งกรรม ธรรมปฏิบัติ (ฉบับคัดลอกของ) พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม) วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
ขอบคุณครับ จะนำไปปฏิบัติครับ :015: