กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 01 ส.ค. 2554, 04:02:40

หัวข้อ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๓๑ กค. ๕๔...
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 01 ส.ค. 2554, 04:02:40
ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
จันทร์ที่ ๑ สิงหาคม พศ. ๒๕๕๔
           ใช้ชีวิตตามปกติในแต่ละวันที่ผ่านไปโดยมีสติและสัมปชัญญะควบคุมอยู่
ระลึกรู้ในสิ่งที่คิดและในกิจที่ทำ พยายามเตือนย้ำตนเองให้เกรงกลัวต่อบาปกรรม
ในการคิดและทำกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น มองเห็นคุณ เห็นโทษ เห็นประโยชน์และมิใช่ประโยชน์
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากสิ่งที่เราคิดและทำ ทุกครั้งในการคิดและก่อนจะพูดหรือลงมือทำ
เพื่อจะไม่เป็นการสร้างเวรสร้างกรรมต่อผู้อื่นเขา กิเลสและกรรมเก่าของเรานั้นมันก็มากอยู่แล้ว
ต้องแก้ไขและชดใช้กรรมเก่าอยู่ทุกวัน จึงไม่ควรสร้างกรรมอกุศลตัวใหม่ให้เกิดขึ้นมาเพิ่มขึ้นมา
เพราะว่าเวลาของชีวิตในภพนี้ชาตินี้นั้น สั้นลงไปทุกขณะ จึงต้องเร่งความเพียรในการชำระจิต
ทำชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีคุณค่าทั้งในทางโลกและทางธรรม.....
           ชีวิตแต่ละวันที่ผ่านไปเหมือนไม่ได้ปฏิบัติธรรมเพราะใช้ชีวิตและทำงานตามปกติ
ไม่ได้นั่งสมาธิ ไม่ได้เดินจงกรม จนมีพระและโยมมาถามว่า...ท่านเอาเวลาไหนไปปฏิบัติธรรม..?
ซึ่งได้ตอบเขาเหล่านั้นไปว่า...เอาเวลาที่มีสติไปปฏิบัติธรรม เมื่อเรามีสติและสัมปชัญญะ
อยู่กับกาย อยู่กับจิต อยู่กับความคิด อยู่กับการกระทำ นั้นแหละคือการปฏิบัติธรรม
เหมือนดั่งคำของหลวงพ่อพุทธทาสที่กล่าวไว้ว่า...การทำงานคือการปฏิบัติธรรม...
เพราะมีสติและสัมปชัญญะคุ้มครองกายและจิตอยู่.....
          การเขียนบทความหรือการบันทึกธรรมนั้น ไม่ได้ตั้งความหวังจะสอนผู้ใด
แต่ที่ได้ทำลงไปนั้น เพื่อเป็นการย้ำเตือนและสอนตัวเราเอง เพื่อให้มีสติระลึกรู้
ส่วนที่จะมีผู้มาอ่าน มาทำความเข้าใจและนำไปปฏิบัติตามนั้น เป็นผลพลอยได้
 เพราะจุดมุ่งหมายของการบันทึกและการบรรยายที่ได้ทำมาไว้นั้นเพื่อเตือนตนสอนตน
เพราะก่อนที่เราจะไปสอนคนอื่นได้นั้น  เราต้องรู้และเข้าใจ ทำได้และเคยทำมาแล้ว
ไม่ใช่ท่องตำราให้จำได้แล้วไปกล่าวธรรม เพราะการทำเช่นนั้นมันเหมือนนกแก้วนกขุนทอง
จำได้พูดได้ แต่ไม่รู้ความหมายและเนื้อหา พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ เป็นเพียงใบลานเปล่า “.....
            ทุกครั้งที่เขียนบทความหรือบรรยายธรรมก็เพื่อย้ำเตือน ทบทวนและสอนตัวเองทุกครั้ง
ไม่ได้มุ่งหวังว่าคนฟังจะรู้นั้นจะเข้าใจและนำไปปฏิบัติตามหรือไม่เพราะถ้าเราไปหวังและตั้งใจ
ให้ผู้ฟังเข้าใจและปฏิบัติตามนั้น...มันเป็นตัณหาคือความอยากมี อยากเป็น อยากเห็น อยากได้
และเมื่อไม่เป็นไปตามที่ใจเราปรารถนา มันก็จะพาให้ใจเป็นทุกข์ เพราะตัณหาไม่ได้รับการสนองตอบ
กล่าวธรรมเพื่อธรรม บันทึกธรรม เพื่อเตือนย้ำความรู้สึกและจิตสำนึกของตัวเราเอง....
ขอบคุณสติและสัมปชัญญะที่เตือนกายเตือนจิตในการคิดและการกระทำ 
                          เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
                              รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๑ สิงหาคม ๒๕๕๔ เวลา ๐๓.๕๙ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๓๑ กค. ๕๔...
เริ่มหัวข้อโดย: saken6009 ที่ 01 ส.ค. 2554, 05:13:09
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ รักษาดูแลสุขภาพด้วยนะครับ :033: :033:
 
ขอบพระคุณ ท่านพระอาจารย์ สำหรับคำสอนดีๆ ที่นำมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ
                                                                                                                                                           
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน เพื่อเป็นความรู้ ขอบพระคุณครับ) :033: :033:
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๓๑ กค. ๕๔...
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 01 ส.ค. 2554, 05:36:42
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๓๑ กค. ๕๔...
เริ่มหัวข้อโดย: ทรงกลด ที่ 01 ส.ค. 2554, 07:42:23
กราบนมัสการท่านพระอาจารย์ฯ :054:

อตฺตานํ  ทมยนฺติ  ปณฺฑิตา