กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด มิตรไมตรี => รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) => ข้อความที่เริ่มโดย: phisorn.b ที่ 28 ก.พ. 2551, 10:33:01
-
สวัสดีครับ
วันนี้ขอความรู้เรื่องตะกรุดครับ...ผมได้รับตะกรุดมา 2 ดอกครับ...กระผมขอถามดังนี้ครับ
01.ตะกรุดทุกดอกที่ถูกส้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์อะไรเป็นส่วนใหญ่ครับ.
02.กระผมได้รับมา2 ดอก (ไม่ทราบว่าเรียกว่าอัน...หรือดอกกันแน่นครับ)...และไม่ทราบที่มาของผู้สร้างตะกรุดด้วยครับ.
03.ในจำนวนตะกรุด 2 ดอกนั้นกายภาพของตระกุดมีดังนี้.
*** ดอกที่ 1 มีขนาดยาว 3.7 ซม.(ประมาณ1.5 นิ้ว) เส้นผ่าศูนย์ใน0.4 ซม.เส้นผ่าศูนย์นอก0.5 ซม.ความหนาของเชือกถักพันรอบ0.2 ซม.สรุปยาว 3.7 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลางทั้งหมด 0.7 ซม.พันแผ่นทองแดงเป็นวง จำนวน 3 รอบแล้วพันเชือกบนแผ่นทองแดงที่ม้วนชั้นแรกพันละเอียดและพันชั้นนอกหยาบนับได้ 18 รอบ...ผู้ให้บอกมาว่าเป็นตะกรุดสายพระป่าทางภาคอิสาน...ผู้ให้ว่าอย่างนั้นจริงเท็จอยู่กับผู้ให้ครับ...
*** ดอกที่ 2 ยาว 2 นิ้ว..เส้นผ่าศูนย์กลางรวมเชือกทักแล้ว0.7 ซม.พันม้วนแผ่นทองแดงเป็นวง จำนวน 5 รอบ(แผ่นทองแดงบางกว่าดอกแรก)พันด้วยเชือกไนลอนสีเขียวบนแผ่นทองแดงที่ม้วนพันแบบละเอียดและพันชั้นเดียวนับได้ 50 รอบ...ผู้ให้บอกไม่รู้ที่มาครับ
04.การใช้ตะกรุดไม่ทราบที่มาของผู้สร้างและระยะเวลาในการสร้าง...มีผลอย่างไร...จะใช้คาดเอวหรือแขวนห้อยคอกันครับ...เรียกว่าไม่รู้แล้วใช้ผิดถูกหรือไม่ครับ.
05.มีบ้างไหมครับที่ท่านใช้ตะกรุดกันแล้วได้ตะกรุดต่อๆกันมาประสบปัญหาอย่างกระผมมีไหมครับ...
06.มีคาถาที่ใชเสกตะกรุดรวมที่ไม่ทราบที่มาและผู้สร้างอย่างไรบ้างครับ.
*** ขอความกรุณาช่วยตอบให้ทราบด้วยครับ...สวัสดีครับ พิศร ครับ :090:
-
1.ส่วนใหญ่สร้างขึ้นมาใช้เพื่อป้องกันตัว คงกระพันชาตรี และอื่นๆตามตำราของผู้สร้าง
2.ตะกรุด ใช้สรรพนามว่า "ดอก" นะครับ
3.แล้วผมจะทราบมั๊ยเนี่ย :010:
4.ขึ้นอยู่กับแต่ละคนครับ ถ้าไม่รู้ก็ไม่ผิดหรอกนะครับ (อย่าคิดมากนะครับ)
5.พบเห็นได้ทั่วไปครับ ตะกรุดมีสร้างกันเยอะมากมาย ส่วนผู้ที่เป็นเจ้าของคนแรกก็มักจะตายไปพร้อมกับความรู้ของเขาเอง(ปล่อยให้คนรุ่นหลังไม่ทราบที่กันต่อไป)
6.คาถาที่ใช้ได้กับตะกรุดทุกที่
นะโม 3 จบ
พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง อุกาสะอาราธนานัง กะโรมิ นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มะหิสุตตัง สุนะพุทธัง อะสุนะอะ(บริกรรมก่อนคาดตระกรุด)
สัตถาเทวะมะนุสสานัง (ภาวนาตอนจะคาดคาดตระกรุด)
อิมังกายะพันธะนานัง อะธิษฐามิ (บริกรรมขณะคาด)
พุทโธภะคะวาติ (บริกรรมเมื่อแก้ปมออก)
:090:
-
ตะกรุดนั้น เด่นพุทธคุณส่วนมากเรืองชื่อเรื่อง คงกะพัน สะส่วนใหญ่
ฆราวาส กับ พระ พุทธคุณเวลาเสกเสร็จแล้วไม่เหมือนกัน ตามที่ฟังผู้ใหญ่เล่ามานะครับ ;D
-
ไม่รุ้ที่ก็อารธานาพกติดตัวได้ครับ ตะกรุดเป็นเครื่องรางที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
ก่อนคาดก็ควรระลึกถึงพะรัตนตรัยและบอกกล่าวแก่ท่านผู้สร้างตะกรุด
แม้ว่าจะไม่รุ้ว่าเป็นไค ก็สามารถพกพาติดตัวได้ครับ
อ่อส่วนมากตะกรุดขนาดใหญ่4-5นิ้วขึ้นไป
มักสร้างให้คาดเอวมากกว่าห้อยคอครับผม แต่ก็มีหลายสำนัที่
สร้างตะกรุดดอกเล็กๆแต่สามารถคาดเอวได้เช่นเดียวกันครับ
-
ตะกรุดที่สร้างส่วนใหญ่เน้นพุทธคุณด้านคงกระพันเป็นส่วนใหญ่
โดยนิยมใช้คาดที่เอว ก่อนคาดเอวให้ว่าคาถา คือ นะโม 3 จบ
แล้วว่าพระพุทธัง อาราธนานัง พระธัมมัง อาราธนานัง พระสังฆัง อาราธนานัง
พระพุทธังประสิทธิเม พระธัมมังประสิทธิเม พระสังฆังประสิทธิเมฯ
-
สวัสดีครับ
ขอขอบคุณทุกท่านที่กรุณาตอบให้ความรู้และความเข้าใจครับ
วันนี้...ขอถามเพิ่มนะครับว่า....
01.การใช้ตระกรุดทุกชนิดที่ไม่ทราบที่มา...ต้องประพฤติปฏิบัติตัวอย่างไรครับ...
02.การชื้อขายตระกรุดเป็นความผิดหรือไม่...ถ้าผิด...ผิดมากแค่ไหน...ครับ
03.พระเครื่องและเครื่องรางใช้แทนกันได้หรือไม่หรือต้องใช้ทั้งคู่..ครับ
04.พระพุทธคุณในการบรรจุใส่พระเครื่องกับเครื่องรางเหมือนหรือต่างกัน...ครับ
05.เครื่องรางมีกี่ชนิดครับ..
06.เครื่องรางกับของขลังต่างกันอย่างไร...ครับ
07.อย่างไรเรียกว่าเครื่องราง...อย่างไรเรียกว่าของขลังครับ
ขอความกรุณาตอบให้ทราบด้วยครับ...
*** ขอบคุณครับ...สวัสดีครับ...พิศร ครับ :090:
-
ตอบแบบง่ายฯนะคับ
1 การใช้หรืออาราธนาพระ-เรื่องรางทุกอย่าง ควรคิดดี พูดดี และวางตัวดีครับ ย่อมเป็นศีลไปในตัว
2 ก้อไม่น่าจะผิดนะครับ ไม่งั้นตามศูนย์พระก้อน่าจะแย่กันหมด (อิอิ)
3 พระกับเครื่องรางแตกต่างกันตรงว่า พระนั้นผู้ที่แขวน ต้องมีศีล ส่วนเครื่องราง บางชนิด(บางชนิดนะครับ) ไม่จำเป็นต้องมีศีลก้อด้าย คิดเอาเองนะครับท่าน
4 พุทธคุณทุกบทที่สวด-เสกไปในวัตถุมงคล ล้วนมาจากพระพุทธองค์ ศาสดาของเราทั้งนั้นล่ะครับ
5 มีหลายชนิดครับ เฉพาะที่คนนิยมก้อ "เสือหลวงพ่อปาน หนุมานหลวงพ่อดิ่ง สิงห์หลวงพ่อเดิม ปลัดขิกหลวงปู่อี๋ แพหลวงพ่ออ่ำ " ประมาณนี้
6 ข้อนี้ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรอ่ะครับ ผ่าน
7 เหมือนกันครับ ผ่าน
ขอบคุณครับ
-
เครื่องรางอาจจะเป็นของที่มนุษย์สร้างขึ้น
เช่นตะกรุด มีดหมอ ผ้ายันต์ ปลัดขิก
ส่วนของขลัง เป็นของทีเกิดขึ้นตามธรรมชาติ
เช่น คดมะพร้าว งากำจัด งากำจาย
หิน แร่ต่างๆ เป็นต้นงับ
อันนี้จำได้ว่าเคยอ่านจากหนังสือเล่มนึง
ถูกผิดยังไงก็ขออภัยด้วยครับ :P