กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) => ข้อความที่เริ่มโดย: dogpom001 ที่ 14 ก.พ. 2552, 12:12:31

หัวข้อ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dogpom001 ที่ 14 ก.พ. 2552, 12:12:31
ผมรู้จักอาจารย์ฝ่ายโสดโรงเรียนซึ่งเล่นกศิณไฟอยู่ผมอยากรู้ว่ามีกี่ธาตฺอะไรบ้างครับแล้วไม่ทราบว่าที่ผมพิมคำว่ากศิณนี่พิมถูกหรือไม่ครับ
หัวข้อ: ตอบ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 14 ก.พ. 2552, 12:21:21
กสิณ มี ๑๐ อย่าง จัดเป็นการเจริญสมาธิฝ่าย สมถะกัมมัฎฐาน อันเป็นต้นทางไปสู่ปฎิสัมภิทาญาน ๔

ในทางปฎิบัติ ปฎิสัมภิทา คือฝ่ายมีถทธิ์มีอานุภาพ จะเป็นบุญญฤทธิ์ หรือ อิทธิฤทธิ์ แล้วแต่องค์กัมมัฎฐาน

ในส่วนของ กสิณ ๑๐ มีผลเป็นอิทธิฤทธิ์ชัดเจนกว่า

กสิณ ๑๐

๑. ปฐวีกสิณ กสิณข้อนี้มี ดิน เป็นพื้นฐาน

๒. อาโปกสิณ กสิณข้อนี้มี น้ำ เป็นพื้นฐาน

๓. เตโชกสิณ กสิณข้อนี้มี ไฟ เป็นพื้นฐาน

๔. วาโยกสิณ กสิณข้อนี้มี ลม เป็นพื้นฐาน

๕. โลหิตกสิณ กสิณข้อนี้มี สีแดง เป็นพื้นฐาน

๖. ปีตกกสิณ กสิณข้อนี้มี สีเหลือง เป็นพื้นฐาน

๗. นิลกสิณ กสิณข้อนี้มี สีเขียว เป็นพื้นฐาน

๘. โอทาตกสิณ กสิณข้อนี้มี สีขาว เป็นพื้นฐาน

๙. อากาสกสิณ กสิณข้อนี้มี อากาศ คือ ความว่างเป็นพื้นฐาน

๑๐. อาโลกกสิณ กสิณข้อนี้มี แสงสว่าง เป็นพื้นฐาน

ฝึกได้ ทำได้ ดีครับ ขออนุโมทนา
หัวข้อ: ตอบ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ชลาพุชะ ที่ 14 ก.พ. 2552, 12:36:19
กสิณ มี ๑๐ อย่าง จัดเป็นการเจริญสมาธิฝ่าย สมถะกัมมัฎฐาน อันเป็นต้นทางไปสู่ปฎิสัมภิทาญาน ๔

ในทางปฎิบัติ ปฎิสัมภิทา คือฝ่ายมีถทธิ์มีอานุภาพ จะเป็นบุญญฤทธิ์ หรือ อิทธิฤทธิ์ แล้วแต่องค์กัมมัฎฐาน

ในส่วนของ กสิณ ๑๐ มีผลเป็นอิทธิฤทธิ์ชัดเจนกว่า

กสิณ ๑๐

๑. ปฐวีกสิณ กสิณข้อนี้มี ดิน เป็นพื้นฐาน

๒. อาโปกสิณ กสิณข้อนี้มี น้ำ เป็นพื้นฐาน

๓. เตโชกสิณ กสิณข้อนี้มี ไฟ เป็นพื้นฐาน

๔. วาโยกสิณ กสิณข้อนี้มี ลม เป็นพื้นฐาน

๕. โลหิตกสิณ กสิณข้อนี้มี สีแดง เป็นพื้นฐาน

๖. ปีตกกสิณ กสิณข้อนี้มี สีเหลือง เป็นพื้นฐาน

๗. นิลกสิณ กสิณข้อนี้มี สีเขียว เป็นพื้นฐาน

๘. โอทาตกสิณ กสิณข้อนี้มี สีขาว เป็นพื้นฐาน

๙. อากาสกสิณ กสิณข้อนี้มี อากาศ คือ ความว่างเป็นพื้นฐาน

๑๐. อาโลกกสิณ กสิณข้อนี้มี แสงสว่าง เป็นพื้นฐาน

ฝึกได้ ทำได้ ดีครับ ขออนุโมทนา

ขอรบกวนช่วยแปลหน่อยได้ไหมครับ ว่ามีความหมายยังไง แล้ว กสินต่างๆ นี้ ฝึกเพื่ออะไร ขอบคุณครับ
หัวข้อ: ตอบ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 14 ก.พ. 2552, 01:00:27
ทราบแค่ผิวเผินครับนะครับ

 กสิณ เป็น การฝึกสมาธิ สำหรับผู้ที่ติดในการเพ่งหรือกำหนดใน มหาภูตรูป ๔ (ดิน น้ำ ลม ไฟ)

เป็นการฝึกที่เหมาะกับผู้ที่ติดในรูปหรือสภาวะอารมณ์ ที่ง่ายๆ  เพ่งจากตาเนื้อจนติดตาแล้วนำมาเป็นอารมณ์กัมมัฎฐาน จนเป็นอารมณ์เดียว

กสิณ ทั้ง ๑๐ อย่าง แยกไปตามความเหมาะสมของผู้ฝึก เลือกโปรฯให้ถูกกับการใช้งาน  :095:

แต่ทั้ง ๑๐ อย่าง เน้นการเจริญสมถกัมมัฎฐานให้ใจสงบเข้าสู่ปฐมฌานและสูงขึ้นต่อไปครับ

ภาพรวมคือ ฝึกสมาธิแบบสมถกัมมัฎฐาน จะมีฤทธิ์มีอำนาจ ให้คนเห็น  ประมาณว่า สอนได้ทำให้ดูได้  โ้ค้ชเล่นบอลเก่งและก็สอนเก่งด้วย

ถ้าเจริญวิปัสสนากัมมัฎฐาน จะเย็นๆ มีแต่คำสอนหรือธรรมะ ประมาณว่า  เล่นบอลเก่งแต่สอนคนอื่นไม่เก่งครับ

กสิณแต่ละประเภทจะมีผลต่างกันไป ตามนี้นะครับพี่ชลาพุชะ(แปลว่าผู้เกิดในครรภ์ ใช่ไหมครับ)

ส่วนนี้คัดลอกมาให้ศึกษาครับ

   ๑. ปฐวีกสิณ (กสิณดิน) จิตเพ่งดิน โดยกำหนดว่าสิ่งนี้เป็นดิน หายใจเข้าให้ภาวนาว่า "ปฐวี" หายใจออกให้ภาวนาว่า "กสิณัง" เมื่อปฏิบัติอยู่ดังนี้ ก็จะข่มนิวรณ์ธรรมเสียได้โดยลำดับ กิเลศก็จะสงบระงับจากสันดาน สมาธิก็จะกล้าขึ้น จิตนั้นก็ชื่อว่าตั้งมั่น เป็นอุปจารสมาธิ เมื่อทำได้สำเร็จปฐมฌานแล้ว ก็พึงปฏิบัติในปฐมฌานนั้นให้ชำนาญคล่องแคล่วด้วยดีก่อนแล้วจึงเจริญทุติยฌานสืบต่อไปได้
 
 ๒. เตโชกสิณ (กสิณไฟ)จิตเพ่งไฟ คือการเพ่งเปลวไฟ โดยกำหนดว่าสิ่งนี้เป็นไฟ หายใจเข้าให้ภาวนาว่า "เตโช" หายใจออกภาวนาว่า "กสิณัง"
 
 ๓. วาโยกสิณ (กสิณลม) จิตเพ่งอยู่กับลม นึกถึงภาพลม โดยกำหนดว่าสิ่งนี้เป็นลม หายใจเข้าให้ภาวนาว่า "วาโย" หายใจออกภาวนาว่า "กสิณัง"
   
๔. อากาสกสิณ (ช่องว่าง) จิตเพ่งอยู่กับอากาศ นึกถึงอากาศ คือการเพ่งช่องว่าง โดยกำหนดว่าสิ่งนี้เป็นช่องว่าง เวลาหายใจเข้าให้ภาวนาว่า "อากาศ" หายใจออกภาวนาว่า "กสิณัง"
 
 ๕. อาโลกสิณ (กสิณแสงสว่าง) จิตเพ่งอยู่กับแสงสว่าง นึกถึงแสงสว่าง วิธีเจริญอาโลกกสิณให้ผู้ปฏิบัติยึดโดยทำความรู้สึกถึงความสว่าง ไม่ใช่เพ่งที่สีของแสงนั้น เวลาหายใจเข้าให้ภาวนาว่า "อาโลก" หายใจออกให้ภาวนาว่า "กสิณัง"
 
 ๖. อาโปกสิณ (กสิณน้ำ) จิตนึกถึงน้ำเพ่งน้ำไว้ คือการเพ่งน้ำ โดยกำหนดว่าสิ่งนี้เป็นน้ำ หายใจเข้าให้ภาวนาว่า "อาโป" หายใจออกภาวนาว่า "กสิณัง" ให้เลือกภาวนากสิณใดกสิณหนึ่งให้ได้ถึงฌาน 4 หรือฌาน 5 กสิณอื่นๆ ก็ทำได้ง่ายทั้งหมด พวกที่สองคือกสิณเฉพาะอุปนิสัยหรือเฉพาะจริตมี 4 อย่าง สำหรับคนโกรธง่าย คือพวกโทสะจริต
   
๗. โลหิตกสิณ เพ่งกสิณ หรือนิมิตสีแดงจะเป็นดอกไม้แดง เลือดแดง หรือผ้าสีแดงก็ได้ทั้งนั้นจิตนึกภาพสีแดงแล้วภาวนาว่า โลหิต กสิณังๆๆๆ
   
๘. นีลกสิณ ตาดูสีเขียวใบไม้ หญ้า หรืออะไรก็ได้ที่เป็นสีเขียว แล้วหลับตาจิตนึกถึงภาพสีเขียว ภาวนาว่า นีล กสิณังๆๆๆ
   
๙. ปีตกสิณ จิตเพ่งของอะไรก็ได้ที่เป็นสีเหลือง ภาวนาว่า ปีต กสิณังๆๆๆ
 
๑๐. โอทากสิณ ตาเพ่งสีขาวอะไรก็ได้แล้วแต่สะดวก แล้วหลับตานึกถึงภาพสีขาว ภาวนาโอทา กสิณังๆๆๆ จนจิตมีอารมณ์เป็นหนึ่งไม่วอกแวกไม่รู้ลมหายใจภาพกสิณชัดเจน

ท่านว่าจิตเข้าถึงฌาน 4 พอถึงฌานที่ 5 ก็เป็นจิตเฉยมีอุเบกขาอยู่กับภาพกสิณต่างๆ ที่จิตจับเอาไว้

อำนาจฤทธิ์ในกสิณต่างๆ

 * ปฐวีกสิณ(กสิณดิน) มีฤทธิ์ดังนี้ เช่น เนรมิตคนๆ เดียวให้เป็นคนมากๆ ได้ ให้คนมากเป็นคนๆ เดียวได้ ทำน้ำและอากาศให้แข็งได้ สามารถย่อแผ่นดินให้ใกล้กำลังการในเดินทาง
   
 * อาโปกสิณ(กสิณน้ำ) สามารถเนรมิตของแข็งให้อ่อนได้ เช่นอธิษฐานสถานที่เป็นดินหรือหรือหินที่กันดารน้ำให้เกิดบ่อน้ำ อธิษฐานหินดินเหล็กให้อ่อน อธิษฐานในสถานที่ขาดแคลนฝน ให้เกิดมีฝนอย่างนี้เป็นต้น
   
* เตโชกสิณ(กสิณไฟ) อธิษฐานให้เกิดเป็นเพลิงเผาผลาญหรือให้เกิดแสงสว่างได้ ทำแสงสว่างให้เกิดแก่จักษุญาณ สามารถเห็นภาพต่าง ๆ ในที่ไกลได้คล้ายตาทิพย์ ทำให้เกิดความร้อนในที่ทุกสถานได้ เมื่ออากาศหนาว สามารถทำให้เกิดความอบอุ่นได้
   
 * วาโยกสิณ(กสิณลม) อธิษฐานจิตให้ตัวลอยตามลม หรืออธิษฐานให้ตัวเบา เหาะไปในอากาศก็ได้ สถานที่ใดไม่มีลมอธิษฐานให้มีลมได้
   
* นีลกสิณ(กสิณสีเขียว) สามารถทำให้เกิดสีเขียว หรือทำสถานที่สว่างให้มืดครึ้มได้
   
* ปีตกสิณ(กสิณสีเหลือง) สามารถเนรมิตสีเหลืองหรือสีทองให้เกิดได้
   
* โลหิตกสิณ(กสิณสีแดง) สามารถเนรมิตสีแดงให้เกิดได้ตามความประสงค์
   
 * โอทากสิณ(กสิณสีขาว) สามารถเนรมิตสีขาวให้ปรากฏ และทำให้เกิดแสงสว่างได้ เป็นกรรมฐาน ที่อำนวยประโยชน์ในทิพยจักขุญาณ เช่นเดียวกับเตโชกสิณ
   
* อาโลกสิณ(กสิณแสงสว่าง) เนรมิตรูปให้มีรัศมีสว่างไสวได้ ทำที่มืดให้เกิดแสงสว่างได้เป็นกรรมฐานสร้างทิพยจักขุญาณโดยตรง
   
* อากาสกสิณ(กสิณอากาศหรือความว่าง) สามารถอธิษฐานจิตให้เห็นของที่ปกปิดไว้ได้ เหมือนของนั้นวางอยู่ในที่แจ้ง สถานที่ใดเป็นอับด้วยอากาศ สามารถ

อธิษฐานให้เกิดความโปร่งมีอากาศสมบูรณ์เพียงพอแก่ความต้องการได้

ขอบคุณ อาจารย์บูรพา ผดุงไทย, กสิณไฟ, หจก. ส เจริญการพิมพ์, 2551


หัวข้อ: ตอบ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ชลาพุชะ ที่ 14 ก.พ. 2552, 01:17:11
ได้ข้อมูลเต็มเลยครับ  ขอบคุณครับ:054:
หัวข้อ: ตอบ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 14 ก.พ. 2552, 01:24:19
เรื่องอิทธิฤทธิ์ มีพระพุทธดำรัสของพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า

“.....ดูก่อนภิกษุ ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราพึงบรรลุอิทธิวิธีหลายประการ คือ คนเดียวพึงเป็นหลายคนก็ได้ หลายคนพึงเป็นคนเดียวก็ได้ ทำให้ปรากฏก็ได้ ทำให้หายไปก็ได้ ทะลุฝ่ากำแพง ภูเขาไปได้ ไม่ติดขัดเหมือนไปในที่ว่างก็ได้ พึงผุดขึ้นดำลงแม้ในแผ่นดินเหมือนในน้ำก็ได้ พึงเดินบนน้ำไม่แตกเหมือนเดินบนแผ่นดินก็ได้ เหาะไปในอากาศเหมือนนกก็ได้ ลูบคลำพระจันทร์พระอาทิตย์...ก็ได้”
“ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่าเราพึงได้ยินเสียง ๒ ชนิด คือเสียงทิพย์และเสียงมนุษย์ทั้งที่อยู่ไกลและใกล้ด้วยทิพยโสตอันบริสุทธิ์ ล่วงโสตของมนุษย์... ถ้าภิกษุจะถึงหวังว่าเราพึงกำหนดรู้ใจของสัตว์อื่น ของบุคคลอื่นด้วยใจ คือ จิตมีราคะ จิตมีโทสะ จิตมีโมหะ ก็รู้ว่าจิตมีราคะ มีโทสะ มีโมหะ ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่าเราพึงระลึกชาติก่อนได้เป็นอันมาก คือพึงระลึกได้ชาติหนึ่งบ้าง สองชาติบ้าง สามชาติบ้าง.... พันชาติบ้าง แสนชาติบ้าง .... ว่าในภพโน้นเรามีชื่อย่างนั้น มีโคตรอย่างนั้น มีผิวพรรณอย่างนั้น มีอาหารอย่างนั้น เสวยสุขเสวยทุกข์อย่างนั้น ๆ มีกำหนดอายุเพียงเท่านั้น ครั้นจุติจากภพนั้นแล้วได้มาเกิดในภพนี้.....
“ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราพึงเห็นหมู่สัตว์ที่กำลังจุติ กำลังอุบัติ เลวประณีต มีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ พึงรู้ชัดซึ่งหมู่สัตว์ ผู้เป็นไปตามกรรม... ด้วยประการฉะนี้เถิด ภิกษุนั้นพึงเป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล ประกอบธรรมเครื่องระงับจิตของตน ไม่เหินห่างจากฌาน ประกอบด้วยวิปัสสนา พอกพูนสุญญาคารฯ”

อากังเขยยสูตร มู. ม. (๘๕-๘๙)
หัวข้อ: ตอบ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ogofmayas ที่ 14 ก.พ. 2552, 02:21:00
ใจมาก เพ่ อชิตะ นำความรู้มากฝากอีกเเระ
รู้มากมายจริงๆๆคริคริ
มีเรื่องไหนไม่รู้บ้างเนี่ยเพ่ชาย
หัวข้อ: ตอบ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SiMPle ที่ 14 ก.พ. 2552, 03:30:49
ถ้าเรียนถามว่า ตั้งแต่สักมาแล้ว รู้สึกเหมือน ซิกเซ้นต์ แรงขึ้นหละค่ะ

เช่น จะมีอาการขนลุกซู่ขึ้นหัวไปเลย  รู้เลยทันทีสถานที่นี้ คนนี้ มีอะไรพิเศษ
หัวข้อ: ตอบ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Chotipat ที่ 14 ก.พ. 2552, 05:10:37
เคยฝึกกสิณไฟไม่รู้เป็นอะไรตัวร้อนเป็นใข้ทุกที
หัวข้อ: ตอบ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tum72 ที่ 14 ก.พ. 2552, 07:04:14
มีแต่ความรู้ครับ ขอบคุณๆๆทุกท่านเลยครับ
หัวข้อ: ตอบ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ۞เณรน้อยเส้าหลิน۞ ที่ 14 ก.พ. 2552, 11:35:29
กสิณในทางพระพุทธศาสนากับกสิณในการเล่นแร่แปรธาตุต่างกันนะครับ 

เพราะกสิณในทางพระพุทธศาสนาเป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่ง ซึ่งเราเรียกว่า สัมมาสมาธิ หรือจะพูดว่าเป็นสมาธิฝ่ายขาว เจริญเพื่อการตัดกิเลส  เจริญเพื่อสู่สติปัฎฐานต่อไป

แต่กสิณในการเล่นแร่แปรธาตุ นั้นเป็น มิจฉาสมาธิ  หรือเป็นกสิณที่นักบวชนอกศาสนาจะใช้กัน ใช้ในด้านไสยศาสตร์  มีการแข่งกัน  การแสดงอิทธิฤทธิ์ต่างๆ แต่อิทธิฤทธิ์นี่ไม่ใช่อภิญญา   ไม่เป็นไปเพื่อการละกิเลส

กสิณแปลว่า เพ่งเป็นสภาพหยาบ สำหรับให้ผู้ฝึกจับให้ติดตาติดใจ ให้จิตใจจับอยู่ในกสิณใดกสิณหนึ่งใน 10 อย่าง ให้มีอารมณ์เป็นหนึ่งเดียว จิตจะได้อยู่นิ่งไม่ฟุ้งซ่าน มีสภาวะให้จิตจับง่ายมีการทรงฌานถึงฌาน 4 ได้ทั้งหมด กสิณทั้ง 10 เป็นพื้นฐานของอภิญญาสมาบัติ

สมาธิ คือ อารมณ์จิตมีความฉลาดตั้งมั่นอยู่ในกรรมฐาน 40 ตั้งมั่นอยู่ในมหาสติปัฏฐานสูตร อันใดอันหนึ่งใน 40 อย่างนั้นหรือแบ่งเป็น 7 หมวดด้วยกัน คือ

1. กสิณกรรมฐาน 10 อย่าง

2. อสุภกรรมฐาน 10 อย่าง

3. อนุสสติกรรมฐาน 10 อย่าง

4. พรหมวิหารกรรมฐาน 4 อย่าง

5. อรูปกรรมฐาน 4 อย่าง

6. อาหาเรปฏิกูลสัญญา 1 อย่าง

7. จตุธาตุววัฏฐาน 1 อย่าง

ไม่ว่าจะกระทำกรรมฐานใดใน 40 อย่างก็จะก้าวสู่ อารมณ์ของสมาธิ  โดยอารมณ์ของสมาธิจะแบ่งตามระดับขั้นองค์ฌานทั้ง 5 คือ

1. ปฐมฌาน มีอาการของจิต 5 อย่าง คือ มีวิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตาสมาธิ ข้อสังเกต ลมหายใจเบาลงในเยือกเย็นสบายไม่มีความรำคาญในเสียงรอบนอก

2. ทุติยฌาน มีอาการของจิต 4 อย่าง คือ วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตาสมาธิ ลมหายใจช้าลงเบาลงมากจิตเป็นสุขชุ่มชื่นไม่ค่อยสนใจรู้ลมเข้าลมออก

3. ตติยฌาน มีอาการของจิต 3 อย่าง คือ ปีติ สุข เอกัคคตาสมาธิ สังเกตง่ายขึ้น ลมหายใจน้อยลงๆ ร่างกายคล้ายตึงเหมือนโดนมัดแน่นิ่งไม่กระดุกกระดิก อารมณ์แนบสนิท

4. จตุตถฌาน มีอาการของจิต 2 อย่าง คือ สุข เอกัคคตาสมาธิ จิตนิ่งเป็นหนึ่ง ลมหายใจละเอียดจนไม่รู้สึกว่าหายใจ จิตแยกจากกายจนไม่รู้สึกว่าหายใจ หูได้ยินเสียงข้างนอกเบามาก

5. ปัญจมฌาน มีอาการของจิต 2 อย่าง คือ อุเบกขา และจิตนิ่งเป็นหนึ่งเดียว จิตแยกจากกายไม่มีความรู้สึกทางกายเลยไม่ได้ยินเสียงจิตมีความสุขแน่นิ่ง และวางเฉย


พอเข้าสู่ฌาน 5 ก็จะพบแสงสว่างในกาย  ก็จะให้มองที่จุดนั้น  กระทำสมาธิในอยู่ในอารมณ์ของฌาน 5 ต่อไป  ต่อจากนี้ก็จะก้าวสู่สติปัฏฐาน 4 คือ กาย เวทนา จิต ธรรม  คือพิจารณากายในกาย  เวทนาในเวทนา จิตในจิต  ธรรมในธรรม นั่นคือการพิจารณาในอารมณ์ของฌาน 5 

พอพิจารณาเข้าได้ก็เรียกว่าเข้าสู่สภาวะธรรม  หรือกำลังจะก้าวสู่ความเป็นพระอริยบุคคล ในขั้นต่อไปครับ

*หมายเหตุ  บุคคลที่เข้าสู่ฌาน 5 พอออกจากอารมณ์ของสมาธิฌานก็จะมีอารมณ์เดียวกับมนุษย์ทั่วไปคือยังมีกิเลสอยู่  ต้องมั่นเจริญบ่อยๆ จนชำนาญอารมณ์ก็จะเกาะเกี่ยวกับธรรมมากขึ้น  จนก้าวสู่การบรรลุในที่สุด


ฌาน 5 ไม่ใช่ถึงยาก  แต่ก็ถึงไม่ง่าย  ขอให้เราปฏิบัติให้ถึงอารมณ์จริงๆ  แต่ที่มันยากคือเราต้องรักษาใจให้ผ่องใสตลอดเวลา ตลอดทั้งวัน ไม่มีเรื่องฟุ้งซ่านเข้ามากระทบใจ หลังที่กออกจากฌาน 5 แล้ว  ไม่ฉะนั้นเรากลับมานั่งสมาธิ จะทำให้จิตไม่นิ่ง  ทำสมาธิยากขึ้น

หรือที่พระท่านว่า  เข้าง่าย แต่รักษายาก   








หัวข้อ: ตอบ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์โจรสลัด~ ที่ 14 ก.พ. 2552, 11:50:27
ระวังกันหน่อยนะครับ เรื่องการเล่นกสิน อะไรนี่ ไม่มีครูแนะนำ สอนให้ใช้ ก็อาจทำแบบผิดๆ

เคยเห็นคนบ้าตามข้างถนน ที่ผมยาวรุงรังแต่งตัวมอมแมม นั่นล่ะ ทำนายทายทักได้แม่นอย่าบอกใครเชียว

เกิดจากคนที่เล่นวิชามากจนเกินไป (ใช้วิจรณญาณในการอ่านด้วย) ไม่มีครู ไม่แนะนำเลยครับ

ไม่ใช่รถบังคับที่ใส่ถ่านแล้ววิ่งได้เลยนะครับผม ถ้าไงก็ระวังกันด้วยครับ ...  :089:

เคยฝึกกสิณไฟไม่รู้เป็นอะไรตัวร้อนเป็นใข้ทุกที

ฝึกมองไฟแล้วร้อน ก็ลองมองแสงไฟ ที่สะท้อนจากน้ำดูครับ ...  :016:
หัวข้อ: ตอบ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ۞เณรน้อยเส้าหลิน۞ ที่ 14 ก.พ. 2552, 11:58:32
ระวังกันหน่อยนะครับ เรื่องการเล่นกสิน อะไรนี่ ไม่มีครูแนะนำ สอนให้ใช้ ก็อาจทำแบบผิดๆ

เคยเห็นคนบ้าตามข้างถนน ที่ผมยาวรุงรังแต่งตัวมอมแมม นั่นล่ะ ทำนายทายทักได้แม่นอย่าบอกใครเชียว

เกิดจากคนที่เล่นวิชามากจนเกินไป (ใช้วิจรณญาณในการอ่านด้วย) ไม่มีครู ไม่แนะนำเลยครับ

ไม่ใช่รถบังคับที่ใส่ถ่านแล้ววิ่งได้เลยนะครับผม ถ้าไงก็ระวังกันด้วยครับ ...  :089:

เคยฝึกกสิณไฟไม่รู้เป็นอะไรตัวร้อนเป็นใข้ทุกที

ฝึกมองไฟแล้วร้อน ก็ลองมองแสงไฟ ที่สะท้อนจากน้ำดูครับ ...  :016:

ขอบคุณน้องโจมากครับ

ขอเสริมนิดนึงนะครับ กสิณที่ได้ที่คุณโจรสลัดได้กล่าวข้างบนนั้น คือกสิณนอกพระพุทธศาสนา หรือกสิณที่พวกฤาษีชีไพร นักบวชนอกศาสนาเขาฝึกกัน  โดยกสิณนอกพระพุทธศาสนาจะทำการส่งจิตออกนอก  เพ่งออกนอก  แต่กสิณที่พระพุทธเจ้าท่านสอนคือการระลึกอยู่กับจิตภายใน  ทำกสิณอยู่ข้างใน  จับอารมณ์กสิณอยู่ภายในกาย ไม่ส่งจิตออกนอกครับ

หลวงพ่อทูล  ขิปปปัญโญ  พระอาจารย์ท่านหนึ่งที่ท่านเคยสอนกรรมฐานผม และพี่ๆที่ได้ฝึกกรรมฐาน  ท่านจะกำชับห้ามส่งจิตออกนอกเด็ดขาด  เพราะมันไม่ใช่วิธีของพระพุทธศาสนา  ท่านจะเน้นเรื่องนี้มากครับ  ท่านบอกว่าฝึกสมาธิแล้วบ้าก็ส่งจิตออกนอกนี่แหละ

(http://i53.photobucket.com/albums/g74/nonsoul/northesan/NorthEsan072s.jpg)

(http://i13.photobucket.com/albums/a276/angelguy_top/7-1.jpg)

พระธาตุของหลวงพ่อทูล  ที่ได้รับพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ผ่านมาครับ
หัวข้อ: ตอบ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 15 ก.พ. 2552, 02:01:12
ระวังกันหน่อยนะครับ เรื่องการเล่นกสิน อะไรนี่ ไม่มีครูแนะนำ สอนให้ใช้ ก็อาจทำแบบผิดๆ

เคยเห็นคนบ้าตามข้างถนน ที่ผมยาวรุงรังแต่งตัวมอมแมม นั่นล่ะ ทำนายทายทักได้แม่นอย่าบอกใครเชียว

เกิดจากคนที่เล่นวิชามากจนเกินไป (ใช้วิจรณญาณในการอ่านด้วย) ไม่มีครู ไม่แนะนำเลยครับ

ไม่ใช่รถบังคับที่ใส่ถ่านแล้ววิ่งได้เลยนะครับผม ถ้าไงก็ระวังกันด้วยครับ ...  :089:

เคยฝึกกสิณไฟไม่รู้เป็นอะไรตัวร้อนเป็นใข้ทุกที

ฝึกมองไฟแล้วร้อน ก็ลองมองแสงไฟ ที่สะท้อนจากน้ำดูครับ ...  :016:

ขอบคุณน้องโจมากครับ

ขอเสริมนิดนึงนะครับ กสิณที่ได้ที่คุณโจรสลัดได้กล่าวข้างบนนั้น คือกสิณนอกพระพุทธศาสนา หรือกสิณที่พวกฤาษีชีไพร นักบวชนอกศาสนาเขาฝึกกัน  โดยกสิณนอกพระพุทธศาสนาจะทำการส่งจิตออกนอก  เพ่งออกนอก  แต่กสิณที่พระพุทธเจ้าท่านสอนคือการระลึกอยู่กับจิตภายใน  ทำกสิณอยู่ข้างใน  จับอารมณ์กสิณอยู่ภายในกาย ไม่ส่งจิตออกนอกครับ

หลวงพ่อทูล  ขิปปปัญโญ  พระอาจารย์ท่านหนึ่งที่ท่านเคยสอนกรรมฐานผม และพี่ๆที่ได้ฝึกกรรมฐาน  ท่านจะกำชับห้ามส่งจิตออกนอกเด็ดขาด  เพราะมันไม่ใช่วิธีของพระพุทธศาสนา  ท่านจะเน้นเรื่องนี้มากครับ  ท่านบอกว่าฝึกสมาธิแล้วบ้าก็ส่งจิตออกนอกนี่แหละ

(http://i53.photobucket.com/albums/g74/nonsoul/northesan/NorthEsan072s.jpg)

(http://i13.photobucket.com/albums/a276/angelguy_top/7-1.jpg)

พระธาตุของหลวงพ่อทูล  ที่ได้รับพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ผ่านมาครับ


สัมมาสมาธิ ควรตั้งใน ณ ภายใน เจริญสมถะให้ตั้งมั่น  เห็นด้วยครับผม  :054:  :054:
หัวข้อ: ตอบ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ۞เณรน้อยเส้าหลิน۞ ที่ 15 ก.พ. 2552, 07:05:41
สัมมาสมาธิ ควรตั้งใน ณ ภายใน เจริญสมถะให้ตั้งมั่น  เห็นด้วยครับผม  :054:  :054:[/color][/b]

สาธุ สาธุ ครับคุณอชิตะ

คุณอชิตะมีภูมิความรู้การปฏิบัติเป็นสัมมาทิฏฐิทีเดียวครับ  สมัยนี้หายากยิ่งครับ

อนุโมทนาบุญด้วยครับ
หัวข้อ: ตอบ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gong23 ที่ 15 ก.พ. 2552, 12:59:47
ครับ ว่าแต่ฝึกกันยากเหมือนกันนะครับ ต้องฝึกสมาธิพื้นฐานให้ได้นานซะก่อนนะครับ
หัวข้อ: ตอบ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ตามพรลิงค์ ที่ 16 ก.พ. 2552, 01:28:18
ได้ความรู้เยอะเลยครับ ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: ตอบ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: peachsama ที่ 09 มี.ค. 2552, 05:14:20
สาธุครับท่าน กสินไฟ จะแก่ไวอ่ะท่าน -*-
หัวข้อ: ตอบ: กศิณมีกี่ธาติอะไรบ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 09 มี.ค. 2552, 08:13:03
กสิณแสงสว่างดีกว่าครับ  ไปเร็วเห็นผล   :016: