กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด ผู้ทรงวิทยาคุณ (เกจิอาจารย์) => ผู้ทรงวิทยาคุณ (เกจิอาจารย์) ภาคต่างๆ => เกจิอาจารย์ภาคกลางและภาคตะวันตก => ข้อความที่เริ่มโดย: ~เสน่ห์ต้นน้ำ~ ที่ 02 มิ.ย. 2552, 09:36:04
-
ประวัติ หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก
พระกรรมฐานแห่งเมืองสุพรรณ
วัดทุ่งสามัคคีธรรม อ.สามชุก สุพรรณบุรี
(http://img37.imageshack.us/img37/8189/lpsungwarn1.jpg)
นามเดิมท่านคือสังวาลย์ นามสกุล จันทร์เรือง เกิดเมื่อ จันทร์ เดือน 4 ปีมะโรง (2459) ที่บ้านหนองผักนาก สามชุก สุพรรณบุรี บรรพบุรุษท่านมีอาชีพทำนา แต่โยมบิดาท่านเป็นผู้ที่ได้นำภาพยนตร์มาฉายในอำเภอสามชุกเป็นคนแรก
อุปสมบทครั้งแรก เมื่ออายุครบบวช แต่ด้วยความที่ท่านเป็นคนไม่รู้หนังสือ บทสวดมนต์บางบท ท่านต้องจำจากที่แม่ชีสวดกัน ท่านจึงสวดมนต์ได้แค่อิติปิโส ฯ พาหุง ฯ แม้แต่นะโมก็ต้องต่อเอา ด้วยเหตุนี้ท่านจึงต้องลาสิกขาบท ทั้งๆ ที่ไม่อยากจะลาเลย
ชีวิตสมรส ท่านสมรสกับแม่บาง เมื่ออายุ 26 ปี ในปี 2448 แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน ท่านยึดอาชีพทำนาแต่ด้วยเหตุที่ท่านมีสุขภาพไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไรนัก บางครั้งขณะที่ทำงานเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา ท่านก็ต้องผลัดกันไถนาโดยอาศัยห้างนาเป็นที่พัก รอจนไข้ลดจึงได้ออกมาทำนาเป็นปรกติ บางทีก็ทำนาไม่ได้ ต้องให้ภรรยาท่านเป็นคนทำ ท่านจึงรับหน้าที่ เป็นผู้ช่วยหุงหาอาหารให้ภรรยาเท่านั้นเอง ท่านได้ทนทุกข์ทรมานกับโรคภัยถึง 2 ปี โดยในระหว่างนั้นท่านได้รับคำแนะนำจากแม่ชีจินตนา ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ให้ทำกรรมฐานเผื่อว่าโรคจะหาย
ความที่ท่านมีโรคภัยนี้เอง จึงได้เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ท่านได้เห็นภัยในวัฏฏะสงสาร เห็นภัยที่เกิดจากความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ขึ้นมา ท่านเล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งแม่บางไม่สบาย ท่านก็ได้ช่วยดูแลตามประสาสามี ธรรมดาของคนป่วยย่อมจะต้องมีความอิดโรยเป็นธรรมดาและช่วยตัวเองไม่ได้ ท่านจึงช่วยตักน้ำราดศีรษะให้แม่บาง พอน้ำราดลงบนเส้นผม ไอระเหยที่โดนเส้นผมนั้น ส่งกลิ่นชวนให้น่ารังเกียจ เนื่องจากไม่ได้ทำความสะอาดมาเป็นเวลานาน ทำให้ท่านเกิดสลดสังเวชใจเป็นอย่างยิ่งว่า ร่างกายของคนเรานี้เป็นสิ่งที่ไม่น่ายินดี เป็นรังแห่งโรค เป็นที่เกิดแห่งทุกข์
ครั้งหนึ่งท่านได้เดินผ่านกระจกเงาบานใหญ่ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ทั้งตัว แทนที่ท่านจะมองเห็นเป็นรูปร่างของตัวท่าน ท่านกลับเห็นเป็นอสุภนิมิต มีโครงกระดูกขึ้นแทน ด้วยตัวท่านเป็นผู้ฝึกทำกรรมฐานอยู่เสมอ จึงทำให้จิตใจที่ได้รับการฝึกฝนอยู่ย่อมเกิดปัญญาเกิดความรู้เห็นขึ้น มีญาณทัศนะปรากฏขึ้น ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ท่านเห็นภัยในสังขารยิ่งขึ้นและเกิดความเบื่อหน่ายที่จะครองเรือนอีกต่อไป การสละจาการครองเรือนจึงได้เกิดขึ้น
ท่านได้บอกกับแม่บาง ให้รู้ถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ที่ท่านจะไปสู่ธรรมวินัยของพระบรมศาสดา เพื่อที่จะทำที่สุดแห่งทุกข์ให้จงได้ ในการจะออกบวชในครั้งนี้ท่านก็ได้ให้พ่อห่วง ผู้เป็นบิดา ให้บอกกับลูกหนี้ทั้งหมดที่เป็นหนี้เป็นสินกับบิดาของท่าน ให้มาประชุมพร้อมกัน และท่านได้ขอร้องพ่อห่วงให้ยกเลิกสัญญาที่ลูกหนี้ทั้งหลายได้กระทำกับบิดาของท่าน ด้วยการฉีกเอกสารทิ้งทั้งหมด นับได้ว่าเป็นการเริ่มต้นในการให้ทาน อันเป็นที่น่าปีติยินดีอย่างยิ่ง
หลังจากนั้นท่านได้ทำมหาทานอีกครั้ง ด้วยการบอกภรรยาว่า จะขอออกบวชอีกครั้ง ให้แม่บางหาสามีใหม่ได้
การบวชครั้งที่ 2 เมื่อท่านอายุได้ 35 ปี ณ วัดนางบวชอำเภอเดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี เมื่อเวลา 14.45 น. ของวันที่ 27 เมษายน 2494 โดยมี พระครูแขก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์ทองย้อย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการไสว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่าเขมโก
เมื่อท่านอุปสมบทแล้ว ก็ได้เข้าไปปฏิบัติธรรม ณ ป่าช้าวัดบ้านทึง สามชุก ท่านได้อาศัยอยู่ในป่าช้าโดยมีหลวงพ่อมหาทอง โสภโณ ซึ่งเป็นเสมือนครูบาอาจารย์ เป็นผู้ปฏิบัติ ผู้อาวุโส อยู่ด้วย ท่านเป็นผู้มีความรู้ทางด้านปริยัติได้ดีท่านหนึ่ง และท่านได้เป็นผู้แปลข้อศีลที่ว่า การไม่ยินดีรับเงินและทองเพื่อเป็นของตน หรือให้ผู้อื่นเก็บไว้เพื่อตน นับแต่นั้นมาหลวงพ่อสังวาลย์ก็ไม่มีปัจจัยแม้แต่สตางค์แดงเดียว และที่พระอาจารย์มหาทองท่านได้สอนหลวงพ่ออีกคือ
สมาธิ ภิกฺขเว ภาเวย สมาธิโต ยถาภูตํ ปชานาติ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอทั้งหลายพึงยังสมาธิให้เกิดขึ้นเถิดเพราะจิตที่เป็นสมาธินั้น ย่อมรู้เห็นตามความเป็นจริง
เพียงประโยคนี้เท่านั้น ที่ท่านถือเป็นแนวทางปฏิบัติ มุ่งมั่นกระทำความเพียร อยู่ในป่าช้าตลอดเวลา 5 ปี
ปัญญาที่เกิดจากการปฏิบัตินี้เองทำให้ท่านรู้เห็นตามความเป็นจริง โดยท่านได้ยึดหลักธุดงควัตรตลอดเวลา
หลังจากที่ท่านพระอาจารย์มหาทองได้ละสังขารแล้วท่านจึงได้ออกจากป่าช้า แต่ท่านก็มิได้ละเลยหรือทอดธุระในภาคปฏิบัติเลยแม้แต่น้อย โดยท่านจะนึกถึงคำของอาจารย์ที่ว่า นักปฏิบัติจะทิ้งการปฏิบัติไม่ได้ จนกว่าจะหมดลมท่านเองก็เป็นเช่นนั้น เมื่อท่านมาอยู่วัดทุ่งสามัคคีธรรม และไปสร้างวัดป่าน้ำตกเขมโก ที่ ด่านช้าง สุพรรณบุรี ท่านก็จะสั่งสอนและเจริญสมาธิภาวนาอยู่เสมอมิได้ขาดเลย
ในระยะเริ่มแรกท่านมีอุปสรรคมากเพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจ บางคนถึงกับเข้ามาทำร้ายและขัดขวางการเผยแพร่ธรรมทุกรูปแบบ แต่ในที่สุดท่านก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคไปได้ และเผยแพร่ธรรมให้ทุกคนรู้จักประพฤติปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้าได้อย่างกว้างขวาง มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจในการปฏิบัติธรรม เข้าห้องกรรมฐานปฏิบัติตามหลักมหาสติปัฏฐาน 4 ที่หลวงพ่อแนะนำสั่งสอนได้เป็นอย่างดี หลวงพ่อจึงมีศิษยานุศิษย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากมาย
คัดลอกมาจากhttp://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-sungwarn-hist.htm :054:
-
เกร็ดประวัติหลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก
เลิกจองเวร
โดย..
ฤทธิ์ รักไทย
เมื่อท่านยังปฏิบัติธรรม บำเพ็ญเพียรอยู่ในป่าช้าวัดบ้านทึง แทบทุกวันตอนที่ท่านบิณฑบาตสุดสาย จะมีโยมผู้หญิงรุ่นโยมแม่ (เป็นคนจับปลาย่านนั้น) พายเรือให้ข้ามฟาก
วันหนึ่ง...
หลวงพ่อสังวาลย์...." โยมเลิกดีกว่าหากุ้ง หาปลา ลูกๆ ก็โตหมดแล้ว "
โยม..." เลิกก็ดีเหมือนกัน อิฉันก็เบื่อเต็มที " แกรับและสารภาพ
หลวงพ่อสังวาลย์...." อาตมาขอบิณฑบาต พวกแห พวกยอทั้งหมด "
โยม..." ได้จ้ะ อิฉันจะขนไปให้ท่านเช็ดเท้า "
ท่านเล่าว่าโยมผู้นี้หาปลามาตั้งแต่เด็ก ไม่มีอาชีพอื่น แกบุกไปทั่ว ไม่ว่า ท่าโบสถ์ โพธิ์พยา ปากไห่ ฯ โยมมารับศีล ๕ แล้วท่านก็บอกว่า
หลวงพ่อสังวาลย์...." บ้านโยมมีไม้ไผ่เยอะ สานพัด สานกระบุงขายจะรวย "
โยม..." ค่ะ อิฉันจะลองทำดู "
คุณโยมตั้งตัวได้ในที่สุด เพราะพัด - กระบุง - ตะกร้า ที่ช่วยกันสาน ลูกๆ แม่ๆ ไม่พอส่งขาย...ท่านว่า..ก่อนจะพูดให้โยมเลิกนั้น มันมีสิ่งที่ปรากฏขึ้นในกรรมฐานท่านมาก่อน เมื่อนักล่าประจำลุ่มน้ำมาถือศีลได้ จึงเลื่องลือไปไกล
มีพระอาวุโส ท่านหนึ่งมาหาแล้วกล่าวว่า...
พระอาวุโส... " ท่านสังวาลย์เก่งจริง เอาคนหาปลารักษาศีลได้ "
หลวงพ่อ..." โยมเขาขาดคนชี้นำเท่านั้น...เขาขาดครู "
พระอาวุโส..." ท่านนี่มีความรู้เหลือหลาย "
หลวงพ่อ..." รู้เขานั้นไม่ใช่ดีเสมอไป รู้เรานั่นแหละเป็นอุดมมงคล "
คัดลอกมาจากhttp://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-sungwarn-hist.htm
-
ขอบคุณมากครับ ที่นำเรื่องราว อันเป็นมงคลสามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตได้ โดยเป็นสุจริตชน มีสัมมาอาชีพที่ไม่ต้องเบียดเบียนใคร
-
ขอบคุณท่านต้นมากครับที่นำประวิติท่านมาลง อนุโมทนาด้วยนะครับ :054:
-
ขอบคุณ ท่านต้นน้ำ มากนะคะ
ที่นำประวัติ หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก มาให้อ่าน ได้ความรู้มากเลยคะ
ท่านต้นน้ำ นี่เป็น วัยรุ่น ตัวอย่างจริง ๆ
ศึกษา ค้นคว้า และ แบ่งปัน... ชื่นชม ค่ะ.... :016:
-
กราบนมัสการหลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก พระอาจารย์ใหญ่ในสายอสุภะกรรมฐานครับ...
...ได้มีโอกาส ไปกราบท่านอยุ่ครั้งนึงครับที่วัดทุ่งสามัคคีธรรม
ท่านได้สอนวิชาตามสายอสุภะที่เรียนมาเพิ่มเติมให้ด้วยครับ...
...ขอบคุณต้นน้ำมากครับ ที่นำภาพและประวัติของท่านมาเผยแผ่
ให้พี่ๆน้องๆชาวเว็บวัดบางพระได้ศึกษา... :016:
-
กราบนมัสการหลวงพ่อสังวาลย์ :054:
และขอบคุณนายต้นน้ำมั่กๆค่ะ
-
ผมเคยได้มีโอกาสได้ไปกราบท่านที่วัด ทุ่งสามัคคีธรรม สุพรรณบุรีมาเหมือนกันครับช่วงนั้นเป็นช่วงปลายของท่านครับ
...
(http://img13.imageshack.us/img13/1936/image0001x.jpg)
(http://img34.imageshack.us/img34/1795/image0002e.jpg)
-
กราบนมัสการหลวงพ่อสังวาลย์ด้วยเศียรเกล้า
ผมเคยรับกรรมฐานกับท่านที่วัดสังฆทาน จ.นนทบุรีครับ
ท่านเป็นสหธรรมิกที่สนิทกับหลวงพ่อสนอง เจ้าอาวาสวัดสังฆทานครับ
ผมเคยรับกรรมฐานเมื่อตอนอายุได้ประมาณ 14-15 ปี (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ตอนนั้นตามคุณย่ามาวัดสังฆทานครับ
ท่านเป็นพระสมถะ เป็นพระเถระที่น่าเลื่อมใสอย่างยิ่ง
เมื่อท่านละสังขารได้สั่งว่าให้นำสรีระร่างของท่านมาตั้งบำเพ็ญไว้ที่วัดสังฆทานครับ
ขอบคุณท่านต้นน้ำสำหรับชีวประวัติของท่านนะครับ
สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
-
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะครับ
กราบนมัสการหลวงพ่อด้วยครับ
-
น้อมสิบนิ้ว นมัสการหลวงปู่ครับ ประวัติและปฎิปทา งดงาม น่าเลื่อมใส จริงๆครับ
ปลุกเสกอะไร จะประเสริฐดีเลิศ เท่าปลุกคนให้ตื่น เว้นชั่ว ทำดี
เสกคนให้เป็นคนดีได้นี่ เข้มขลังสุดๆครับ
คนมีดี คนมีธรรมะ เป็นคนศัักดิ์สิทธิ์แท้จริง ครับ
-
ขอบคุณท่านต้นมากครับ
-
หลวงพ่อสนอง เจ้าอาวาสวัดสังฆทานเป็นลูกศิษย์ท่านครับ
-
หลวงพ่อสนอง เจ้าอาวาสวัดสังฆทานเป็นลูกศิษย์ท่านครับ
ที่วัดสังฆทาน ที่บ้านทรงไทยก็มีรูปหล่อของหลวงปู่สังวาลย์ค่ะ
จะเป็นทางผ่านระหว่างหอพักนักบวชเนกขัมมะ กับที่โบสถ์ที่เราจะไปปฏิบัติธรรม
กราบไหว้ขอพรท่านแล้วสบายใจดีค่ะ :001: