แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - หนุมานะ

หน้า: [1]
1
วิชาสักยันต์ของหลวงพ่อกวย

ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หลวงพ่อกลับมาอยู่วัดบ้านแค เเละได้เริ่มทำการสักให้ศิษย์ จากหลักฐานของคำบอกเล่าของศิษย์รุ่นเก่าๆ ซึ่งบางคนมีอายุร่วม๙๐ปี คือมีอายุมากกว่าหลวงพ่อ เเสดงว่า หลวงพ่อได้เริ่มสักให้ศิษย์ตั้งเเต่ท่านอายุได้๓๕ถึง๔๐พรรษา

การสักนั้น หลวงพ่อจะจดรายชื่อศิษย์ที่สักกับท่านเอาไว้ทั้งหมด โดยมีทั้งชื่อเเละที่อยู่ เเละยันต์อะไรที่สักไป พร้อมกับที่ด้านหน้ามีการทำเครื่องหมายด้วยว่า ใครที่เคยมาในพิธีีไหว้ครูด้วย

วิชาสักของหลวงพ่อมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ขนาดสักกันทั้งกลางวันกลางคืน ทางเดินสมัยก่อนต้องเดินเท้าเอา ลำบากมาก อย่างดีก็ขี่จักรยาน รถ ๒ แถว มีเข้าวัด ๑ คัน ออก ๑ คัน เท่านั้น มีศิษย์สักมาก ได้จดบัญชีไว้ ๔ หมื่น ๔ พันคน ต่อมา หลวงพ่อเห็นว่าสมควรแก่เวลา หลวงพ่อได้หยุดสัก เปลี่ยนมาทำพระเเละแต่เรื่องรางของขลัง เช่น ตะกรุด, มีดหมอ, แหวนแขน เป็นต้น ช่วงนั้น ข้าวยากหมากเเพง โจรร้ายเต็มบ้านเมือง โดยเฉพาะ เเถวภาคกลางตอนล่าง เเถบนครสวรรค์ ชัยนาท อ่างทอง สุพรรณบุรี เป็นเเหล่งกบคานของก๊กเสือร้ายหลายกลุ่ม ชาวบ้านเเคก็ได้อาศัยบารมีหลวงพ่อเพื่อคุ้มครองครอบครัวเเละทรัพย์สิน ของมีค่าต่างๆ ก็จะเอามาฝากหลวงพ่อที่วัด ลูกเมียก็จะมาขอนอนที่วัดเพราะกลัวโจรฉุด วัวควายก็พากันเอามาผูกในลานวัด จากคำบอกเล่าของคนเก่าๆที่บ้านเเค เล่าว่า พวกโจร เสือต่างๆไม่มีใครกล้ากับหลวงพ่อ มีอยู่รายนึงเป็นเสือมาจากอ่างทอง พาสมุนล้อมวัดบ้านเเคตอนกลางคืน เห็นว่าวัวควายของชาวบ้านที่ลานวัดมีเยอะมาก เเต่ก็โดนตะพดหลวงพ่อจนต้องรีบพาสมุนกลับเเละก็ไม่มาเเถวบ้านเเคอีกเลย เขาว่าในสมัยนั้นเมื่อเสือ เดินผ่านวัดหลวงพ่อ ต้องยิงปืนถวายทุกครั้ง

หลวงพ่อกวยท่านเป็นอาจารย์สักมาก่อนที่จะมามุ่งมั่นในการสร้างวัตถุมงคลอย่างจริงจังเอกลักษณ์การสักของหลวงพ่อ ยันต์ที่สักจะไม่มีอักขระมากมายหรือสักเเบบเต็มตัวเเบบของสำนักอื่น เเต่ยันต์ที่หลวงพ่อกวยสัก มักมีไม่มากตัว บางครั้งเป็นยันต์เเบบเดียวโดดที่หน้าอก หรือหลัง เป็นยันต์เดี่ยวมีทั้งเล็กเเละใหญ่เเบบเต็มเเผ่นหลัง การสักยุคเเรกๆ หลวงพ่อลงเข็มเอง เสกเอง

คนที่สักกับหลวงพ่อปรกติจะไปสักประมาณ๑หรือ๒ครั้งเท่านั้น อย่างมากสุดก็เเค่๓ครั้ง คือไปสักเพิ่มยันต์กับหลวงพ่อ

การสักที่เด่นๆของหลวงพ่อคือ ยันต์เเรกจะเป็นยันต์ตรงหน้าอก เเละก็ลงที่ด้านหลังอีกยันต์ ถ้าใครไม่พอ มาขอเพิ่ม หลวงพ่อจะลงหนุมานเพิ่มให้อีกที่สีข้าง ถ้ายังไม่พออีกหลวงพ่อก็จะเพิ่มเสือหมอบให้อีกตัว เเต่ยันต์เสือ น้อยคนที่จะได้ไป

การสักของหลวงพ่อจะต้องใช้หัวหมูบายศรี ไหว้ครู ก่อนทำการสัก ยันต์ที่่หลวงพ่อสักมีดังนี้  สักเสือ  สักสิงห์  สักหนุมาน  สักนกอืนทรีย์ สักงูพันดาบ สักยันต์ต่างๆ  สักยันต์เกราะเพชรที่กะหม่อม  สักหงษ์คู่ที่หัวไหล่ซ้ายขวา  สักธนูมือซึ่งน้อยคนที่จะได้ไป

นอกจากสักเเล้ว  หลวงพ่อจะให้ศิษย์กินน้ำมันงาอีกด้วย  ครั้งนึงประมาณ ๒หรือ๓ช้อน  น้ำมันงานี้  หลวงพ่อจะปลุกเสกจนเเข็งเป็นเเบบเกล็ดน้ำเเข็ง  ซึ่งผู้ที่จะเสกน้ำมันงาให้เเข็งได้  ต้องมีอาคมเเก่กล้า  เพราะน้ำมันงานี้  เเม้หน้าหนาวยังไม่เเข็งตัวเลย  คนที่ได้กินน้ำมันงา  จะรู้สึกติดปากติดคอไม่ไปไหน  ใครได้กินน้ำมัน

การปลุกเสกยันต์ที่สัก หลวงพ่อจะลงอาคม เเละใช้ญาณปลุกเสก ยันต์ของหลวงพ่อจึงเข้มขลังไม่เสื่อมคลาย เเม้ว่าศิษย์จะไปทำอะไรหรือไปนอนกับภรรยาก็ตาม เว้นเสียเเต่ผิดข้อห้ามที่ได้กำหนดไว้ ต่อมาท่านได้ถ่ายทอดวิชาสักให้กับศิษย์คือ ลุงทอด ลุงหล่อน เเละอาจารย์ทรง ศิษย์ทั้งสามจึงเป็นผู้ลงเข็ม หลวงพ่อเป็นผู้เสก ระยะหลัง ท่านก็ได้ทำการเลิกสัก คือ ไม่สักเเละไม่เสก โดยปล่อยให้ศิษย์ทั้งสามท่านเป็นคนสักเเละเสกเอง เพราะหลวงพ่อถือว่า ได้ถ่ายทอดวิชาให้ไปเเล้ว เเละท่านก็หันมาทำพระเเละเครื่องราง จวบจนถึงวาระสุดท้ายของท่าน

โดยปรกติผู้ที่สักยันต์มักมีประสบการณ์ยิงไม่เข้า ตีไม่เเตก ไม่ช้ำ เเต่ลายสักของหลวงพ่อกวยนั้น ลูกศิษย์ที่หมั่นปลุกเสก อาพัดข้าว อาพัดน้ำกินทุกวัน การสักจะมีความศักดิ์สิทธิ์เเละมีอภินิหารทางมหาอุดอีกด้วย คือยิงไม่ออกเลย นับว่าพบเห็นได้ยากมากสำหรับวิชาสักที่มีอภินิหารเเบบนี้

 


2
พอดีอยากจะสักกับท่านแต่ไม่รู้ทางไปครับผมอยู่หางดงไม่ทราบว่าท่านสักวันไหนและต้องเตรียมอะไรไปบ้างครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

3
ผมเป็นคนชอบสักครับเที่ยวสักหลายที่แต่ไม่เคยของขึ้นเลยครับ สุดท้ายขับรถไปสักถึงบางพระเดินดุ่มๆเข้าไปในกุฎิไม่ทราบหลวงพี่อะไร
ก่อนหน้าผมมีวัยรุ่นสัก3คนแต่ละคนก็ของขึ้น ท่านให้นั่งหันหลังและจะลงให้เลยครับไม่ได้เลือกมีพี่ท่านหนึ่งได้หนุมานไปตอนสักเสร็จท่าน
ปลุกขึ้นเป็นหนุมานเลยครับทั้งๆที่ไม่รู้ว่าท่านสักรูปอะไรให้  ทีนี้มาถึงตาผมผมก็นั่งหันหลังให้ท่านสนธนากันสักพัก ท่านก็เดินไปหยิบตรา
ปั๊มและลงมือสัก หลังจากท่านสักเสร็จตอนท่านท่องมนต์เหมือนโดนสะกดให้รับของที่ท่านส่งมาให้ทางจิต รู้สึกตัวเกร็งและหายใจแรง
ของขึ้นเป็นเสือทั้งๆที่ไม่รู้ว่าตัวเองได้ลายเสือมาเลยครับ แปลกดีน่าศรัธรามากครั้งแรกที่เจอกับตัว

อยากสอบถามพี่ๆสายบางพระด้วยครับ ว่าหลวงพี่ท่านนี้มีนามว่าอะไร ผมเดินเข้าไปให้ท่าสักและก็รีบลาออกมาเพราะคนต่อคิวเยอะมากจน
ลืมถามชื่อท่านเลยครับ แต่ศรัธราท่านมากๆ สมาธิท่านนิ่งจริงๆ ตานิ่งมากแทบไม่กระพริบตาตอนสักเลยครับ แถมรูปเสือถูกใจมาก ๆ
ตอนแรกเดินเข้าไปแค่คิดในใจว่าอยากได้รูปเสือ เพราะเสือวัดบางพระสุดยอดแล้ว เดินออกมาได้เห็นลายสัก ดีใจสุดๆครับ


4
ผมไปสักมาหลายที่ ยอมรับว่าหลวงพี่ญาท่านมือหนักที่สุดครับ สุดๆเลย ท่านสักสายบางพระคับ ท่านไปช่วยสักงานไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่นที่วัดบางพระทุกปีครับ เป็นอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่น่านับถือ ประสบการณืแถบลำปางเป็นที่เลื่องลือครับ เพื่อนอยู่เชียงใหม่ไปสักวัดบางพระ พระท่านบอกมาทำไมไกลทำไมไม่ไปหาหลวงพี่ญา สายเดียวกันครับ หลวงพ่อเปิ่นครอบครูให้เหมือนกัน

5
จะรบกวนสอบถามพี่สิงห์ดำครับ พอดีอยากไปสักกับ อ.ต้น วัดทุ่งเกี๋ยง และ อ.พรสิทธิ์ วัดสว่างอารมณ์ จะต้องไปวันไหนและเตรียมตัวหรืเตรียมอะไรไปบ้างครับ อย่างไรบ้างครับ ผมอยู่หางดงนี่เองครับ ยังไงรบกวนขอเบอร์ติดต่อพี่สิงห์ดำได้รึเปล่าครับถ้าได้ยังไงส่งทางเมลล์ก็ได้ครับ untika_mod@hotmail.com อยากไปสักให้เร็วที่สุดลยครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าเลยครับพี่

หน้า: [1]