:059:งานที่ใช้กำลัง...ถ้าเราไม่ระวังสำรวมสติ...จิตจะหยาบ
ในการทำงานที่ต้องใช้แรงงานนั้น มันย่อมมีผลต่อร่างกายและจิตใจ และต้องใช้ความอดทนที่สูงมาก และถ้าขาดสติตามรู้ตามเห็นไม่ทันกิเลสนั้นจะแสดงออกมา (ความเอาแต่ใจตัวเอง ความเห็นแก่ตัว ความน้อยใจ ความเสียใจ ความมักง่าย ความขี้เกียจ ความโกรธ)จะปรากฏขึ้น
ที่เป็นเช่นนั้นเพราะกิเลสมันถูกเผาให้เร้าร้อน มันถูกกระตุ้นด้วย ความเหนื่อย ความร้อน ความหิวกระหาย ความที่ไม่ได้ตามที่ใจปรารถนา
การทำงานก็คือการสอบอารมณ์ของเรา เพราะเราต้องเผชิญกับตามเป็นจริงและสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น มันคือชีวิตจริงสิ่ที่เราต้องประสพพบอยู่ทุกวันในการดำเนินชีวิตของเรา ขณะที่เรานั่งสมาธิภาวนานั้น มันไม่มีผัสสะของจริงมากระทบ เราอยู่กับความสงบ กิเลสมันถุกกดทับด้วยอารมณ์สมาธิ มันจึงมองไม่เห็นกิเลส และอาจจะหลงคิดไปว่าไม่มีกิเลสแล้ว อารมณ์ในสมาธินั้นมันเป็นโลกส่วนตัวของเรา เฉพาะตัวเรา
แต่เมื่อเราออกจากอารมณ์สมาธิแล้ว กลับมาสู่ความเป็นจริง คือปัจจุบันธรรมสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนั้น ซึ่งมันมีทั้งแรงดูดและแรงต้านให้เราคล้อยตามหรือปฏิเสธ ถ้าสติและสัมปชัญญะมีกำลังอ่อน เราก็จะถูกกิเลสเข้าครอบงำ คล้อยตามกิเลสที่กิดขึ้น แต่ถ้ากำลังของสติสัมปชัญญะ
มีความสมบูรณ์ เราจะรู้เท่าทันกิเลสนั้น และจะปฏิเสธไม่คล้อยตามมัน
"ไม่มีใครรู้ซึ้งเท่าหนึ่งจิต" เราต้องรู้จักตัวเรา เพราะไม่มีใครจะรู้เหตุและผลของตัวเราเท่ากับตัวเรา เราเองต้องเป็นผู้สอบอารมณ์ของตัวเรา
ไม่ต้องให้ใครเขามาสอบอารมณ์ของตัวเรา "จงรู้จักกาย รู้จักจิต รู้จักความคิด และรู้ในสิ่งที่กระทำ" เราจึงจะไม่หลงทาง หลงตัวเอง หลงกิเลส
และการสอบอารมณ์ที่ดีที่สุดก็คือการทำงาน ที่ใช้กำลังแรงงานร่วมกับผู้อื่น เพราะเราจะได้เจอผัสสะ(สิ่งที่มากระทบ)ทั้งภายนอกและภายใน
เราจะได้เห็นความหวั่นไหวและความสงบนิ่งของเรา ซึ่งมันคือของจริง คือสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ แล้วเราจะได้รู้ว่าการปฏิบัติธรรมของเรานั้นมันก้าวหน้าไปถึงไหน(รู้ได้เมื่อภัยมา)(ปัญหาไม่มา ปัญญาไม่มี บารมีไม่เกิด)ไม่ใช่นั่งคิดนั่งฝันว่ามันเป็นอย่างนั้น มันเป็นอย่างนี้ มันต้องมีของจริงมาพิสูจน์ มาทดสอบอารมณ์ของเรา.....
:054:แด่การทำงานที่สอนให้เข้าใจถึงการปฏิบัติธรรม
เชื่อมั่น-ศรัทธา-ในหลักธรรม
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒ เวลา ๑๑.๐๑ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายแดนประเทศไทย