มุมมองของพระเครื่องในชาวพุทธนี้ สะท้อนสังคมในปัจจุบันจริงๆ ยิ่งสมัยนี้ด้วยแล้ว...วัตถุมงคลที่มวลสารดี พิธีขลัง วัตถุประสงค์ชัดเจนนั้นมีบทบาทมากมายในสังคมไทย... พอกล่าวถึง 'วัตถุมงคล' เลยนึกถึงหลวงพ่อท่านหนึ่ง... ที่เขาได้ชื่อว่าเป็น 'พ่อครูของศิลปิน' เขาเป็นใครเดี่ยวเล่าให้ฟังค่ะ..
ประวัติพอสังเขปคือ ท่านเป็นพระผู้อนุรักษ์ ถ่ายทอดวิชาศิลปะดนตรีไทย ปี่พาทย์ คีตศิลป์ไทย และสอนการประดิษฐ์หัวโขนที่วิจิตรบรรจง
ท่านศึกษาที่วิทยาลัยนาฏศิลป ซึ่งเสียดายที่คุณโชวไม่มีโอกาสได้ไปเรียนที่นั่นหรอก.. ปะป๊า มะม๊า เป็นไทยเชื้อสายจีน. ท่านจึงมักอยู่เบื้องหลังเพื่อสอนให้เราทำธุรกิจที่บ้านสินะ
พอมารู้ทีหลังก็ตีอกชกตัว ทำไมมะม๊าไม่ส่งหนูไปเรียนที่หนูชอบหละ.. ปล่อยให้หนูเป็นศิลปินในคราบนักธุรกิจ.. หมะม๊าบอก แล้วกูจะรู้ไม๊?
มาเข้าเรื่องต่อ.. พระผู้อนุรักษ์ท่านนี้คือ พ่อครูศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ... คุณโชวเองกล่าวไปก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะมีใครในเว็บบอร์ดนี้รู้จักหรือไม่? เพราะที่ศรัทธาท่านก็เพราะตัวท่านและประโยชน์ที่ท่านทำให้กับสังคม!
คุณโชวเองกำหนดสถานะตัวเองได้วันนี้ ก็บอกได้ว่าเพียงเป็นเป็นศิษย์ห่างๆ ของพ่อครูศิริพงษ์..และละอายใจมากที่ท่านจำได้ทั้งชื่อจริง และนามสกุลจริงของศิษย์ที่แสนห่างของท่านคนนี้ได้ เพียงแค่ไปกราบท่านครั้งเดียว ตอนแรกคิดว่าจะไม่ไปอีกแล้วเพราะได้ข่าวว่าท่านดุเหลือเกิน...แม้ไม่ได้เจอกันบ่อยนัก..(เพราะกลัวแกจับสวดมนต์ เวลาไปยังต้องแอบไปตอนที่เขาสวดกันเสร็จก่อนค่ะ อ่า.. นิสัยไม่ดีอย่าเลียนแบบ) แถมพ่อครูยังจำได้อีกว่า ทรงผมลูก..เปลี่ยนไปจากครั้งที่แล้วหนิ!
อ่ะทีนี้มาวกเรื่องวัตถุมงคล.. วัตถุมงคลในมุมมองของพ่อครูนั้นท่านนิยามว่า 'วัตถุรูปเคารพสัญญลักษณ์แทนครู' ที่สร้างโดย พระศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ!
แถมท้ายด้วยวลีนี้..
อย่าหลงโง่งมงาย ไม่มีใครเสกเป่าใครให้ดี ให้เลวได้
นอกจากสร้างดี สร้างเลว ให้ตัวของตัวเอง
วัตถุรูปเคารพมีไว้ให้ระลึกถึง คมคำ คำสอน
'ทำดีมากก็กลายกลับเป็นอัปรีย์
ทำชั่วก็พาให้มัวหมอง
รู้ชั่ว รู้ดี เอาตัวรอด ปลอดภัย'
ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
พ่อครูศิริพงศ์มักย้ำนักย้ำหนาว่า... ให้ลูกมีไว้เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจว่าเป็นศิษย์มีครู ให้ดำเนินชีวิตอยู่ในกรอบของศีลธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดี เป็นที่ยอมรับของสังคมให้ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท
พ่อครูท่านสร้างวัตถุแทนครูประเภท ฤาษี พระพิราพ ใครเดินทางมาหาท่าน ท่านจะถามทุกคนไปว่า เธอประกอบอาชีพอะไร จะบูชาพ่อครูฤาษีไปทำไม เราไม่ใช่ลัทธิ เข้าเจ้า เข้าทรงอะไรนะ ฯลฯ..
ท่านแรง ชัด คม.. มีจุดยืนของท่านชัดเจน ตัวกูเป็นของกู เป็นศิลปินที่บวชเป็นพระหละว่าง่ายๆ คุณโชวก็ชอบและศรัทธาค่ะ..มีพ่อค้าพระหลายท่านไม่ชอบท่าน นำท่านไปพูดลับหลังหาว่า
ยะโส โอหัง ที่อื่นมีแต่จะให้รีบซื้อ จะได้รีบขาย เป็นพระเป็นเจ้าพูดจากกวนส้นตีน.. แต่ท่านว่า คนเราทำไมดูถูกตัวเองหละ? ทำไมไม่เชื่อมั่นตัวเอง... ชอบหาวัตถุมงคลภายนอกมาสร้างขวัญและกำลังให้ตนแบบชนิดลงทุน เสียเงิน เสียทอง จนต้องตกเป็นเหยีอผู้ที่ฉลาดกว่า... ทำไมไม่ปลอบกำลังใจสร้างพลังศรัทธาให้มีในตน อธิฐานใจให้ผ่านอุปสรรคที่กำลังเผชิญอยู่.... ผลสำเร็จที่ได้มาจะสร้างความภูมิใจที่ดี ได้ดีเพราะตัวตน..ไม่ใช่เพราะใครกูจึงได้ดี!
เอาหละ ยืดยาวแล้ว.. ท่านเป็นของท่านอย่างนั้นค่ะ.. พ่อครู..
วัตถุมงคลท่าน นึกอยากแจกท่านก็แจกค่ะ .. วัตถุมงคลท่านที่มีอยู่นั้น.. บอกได้เลยว่าเป็นพุทธศิลป์ที่สวยมากๆ ในขณะเดียวกันราคาก็สูงปรี้ดมาก!
พอท่านแจกเสร็จ (แม้จะยากแสนยาก ง่ายแสนง่ายเวลาจะแจก) พอสิ้นวันพระหมด..
พระที่แจก ราคาพุ่งเป็นหมื่น.. คุณโชวมีอยู่องค์เดียว แถมยังอยากจะไปบูชาเพื่อสะสมจากท่านอีกค่ะ..เพราะของท่านสวยจริงๆ สวยมากๆ ค่ะ
เดือนหน้าจะไปไหว้ครูท่านค่ะ.. ไว้มาเล่าต่อค่ะ! บัฟบาย!!!!