พุทธคุณ ๙
คำว่า ?พุทธคุณ? เป็นคำที่ชาวพุทธคุ้นหูกันเป็นอย่างดี แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่เข้าใจคำนี้ได้อย่างถูกต้องนักดังนั้นจึงขอนำมาอธิบายขยายความไว้ในที่นี้ โดยใน พจนานุกรมพุทธศาสน์ของรองศาสตราจารย์ดนัยไชยโยธา ได้ให้ความหมายไว้ว่า
พุทธคุณ ๙ คือคุณความดีของพระพุทธเจ้า๙ ประการ ดังที่นักปราชญ์ได้ร้อยกรองเพื่อใช้เป็นบทสวดสรรเสริญพระคุณอันประเสริฐไว้ดังนี้
๑. อรหํ เป็นพระอรหันต์มีคำแปลและความหมายอย่างน้อย๔ ประการดังนี้
๑.๑ เป็นผู้ควรคือผู้ทรงสั่งสอนสิ่งใดก็ทรงทำสิ่งนั้นได้ด้วย เป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์
๑.๒ เป็นผู้ไกลคือผู้ทรงไกลจากกิเลสและบาปกรรมเพราะทรงละได้เด็ดขาดแล้วทั้ง โลภ โกรธและหลง
๑.๓ เป็นผู้หักซี่กำแพงล้อสังสารวัฏ คือผู้ทรงตัดวงจรแห่งการเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏได้แล้ว
๑.๔ เป็นผู้ไม่มีข้อลี้ลับคือผู้ทรงไม่มีบาปธรรมทั้งที่ลับและที่แจ้ง เป็นผู้ควรแนะนำสั่งสอนผู้อื่น และเป็นผู้ควรได้รับความเคารพของผู้อื่น
๒. สมฺมาสมฺพุทฺโธ เป็นผู้ทรงตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง คือทรงตรัสรู้อริยสัจ ๔ อันได้แก่ทุกข์สมุทัยนิโรธมรรคเป็นการค้นพบด้วยพระองค์เอง ไม่มีครูอาจารย์เป็นผู้สอน
๓. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน เป็นผู้ทรงเพียบพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ คือ มีวิชชาความรู้ตั้งแต่ความรู้ระดับพื้นฐานจนกระทั่งความรู้ระดับสูงสุดและมีจรณะความประพฤติดีประพฤติได้ตามที่ทรงรู้เช่นความสำรวมในศีลเป็นต้น
๔. สุคโตเป็นผู้เสด็จไปดีคำว่า?ไปดี? มีความหมายหลายนัยคือ
๔.๑ เสด็จดำเนินตามอริยมรรคมีองค์แปดอันเป็นทางเดินที่ดี
๔.๒ เสด็จไปสู่พระนิพพานอันเป็นสภาวะที่ดียิ่ง
๔.๓ เสด็จไปดีแล้วเพราะทรงละกิเลสได้โดยสิ้นเชิง
๔.๔ เสด็จไปปลอดภัยดีเพราะเสด็จไปบำเพ็ญประโยชน์แก่สัตว์โลก
๕. โลกวิทู เป็นผู้ทรงรู้แจ้งโลกคือ ทรงรอบรู้โลกทางกายภาพเช่นโลกมนุษย์สัตว์โลกสังขารโลกโอกาสโลกและทรงรู้โลกภายในคือทุกข์และการดับทุกข์
๖. อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ เป็นสารถีผู้ทรงฝึกคนได้อย่างยอดเยี่ยมคือพระองค์ทรงรู้นิสัย(ความเคยชิน) อุปนิสัย (มีแวว) อธิมุตติ(ความถนัด) อินทรีย์(ความพร้อม) ของบุคคลระดับต่างๆและทรงฝึกสอนด้วยเทคนิควิธีการที่เหมาะแก่ความเคยชินแววถนัดและความพร้อมของเขาให้บรรลุมรรคผลเป็นจำนวนมาก
๗. สตฺถา เทวมนุสฺสานํ เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายคือพระองค์ทรงประกอบด้วยคุณสมบัติที่ควรเป็นครูของบุคคลในทุกระดับชั้นเพราะพระองค์ทรงรอบรู้และทรงสอนคนได้ทุกระดับทรงสอนด้วยความเมตตา มิใช่เพื่อลาภสักการะและคำสรรเสริญแต่ทรงมุ่งความถูกต้องและประโยชน์สุขของผู้ฟังเป็นใหญ่ ทรงสอนให้เหมาะสมกับอัธยาศัยของผู้ฟัง และทรงทำได้ตามที่ทรงสอนนั้นด้วย
๘. พุทฺโธ เป็นผู้ตื่นผู้เบิกบานคือ พระองค์ทรงตื่นเองจากความเชื่อถือและข้อปฏิบัติทั้งหลายที่ยึดถือกันมาผิดๆด้วยทรงรู้จักฐานะคือเหตุที่ควรเป็นเปรียบได้กับคนตื่นจากหลับแล้วทรงปลุกผู้อื่นให้พ้นจากความหลงงมงายด้วยอนึ่งพระองค์ทรงตื่นแล้วเป็นอิสระจากอำนาจของโลภ โกรธ หลงแล้วเมื่อทรงตื่นแล้วก็ทรงแจ่มใสเบิกบานมีพระทัยบริสุทธิ์สะอาด
๙. ภควาเป็นผู้มีโชคผู้ทรงแจกแบ่งธรรมคือพระองค์ทรงเพียบพร้อมไปด้วยคุณธรรมทั้งหลายอันเป็นผลสัมฤทธิ์แห่งพระบารมีที่ทรงบำเพ็ญมานับเป็นผู้มีโชคดีกว่าคนทั้งปวงเพราะพระองค์ทรงทำการใดก็ลุล่วงปลอดภัยทุกประการ ส่วน?ภควา? แปลว่า?ทรงแจกแบ่งธรรม? หมายถึงมีพระปัญญาล้ำเลิศจนสามารถจำแนกธรรมที่ลึกซึ้งให้เป็นที่เข้าใจง่ายและมีพระกรุณาธิคุณจำแนกแจกจ่ายคำสั่งสอนแก่เวไนยสัตว์ให้รู้ตาม
พระพุทธคุณทั้ง๙ ประการนี้สรุปลงเป็น ๓ ประการคือ
๑. พระวิสุทธิคุณคือความบริสุทธิ์อันได้แก่พระคุณข้อที่๑, ๓ และ ๙
๒. พระปัญญาคุณ คือปัญญาอันได้แก่พระคุณข้อที่ ๒, ๕ และ ๘
๓. พระมหากรุณาธิคุณ คือพระมหากรุณาอันได้แก่ พระคุณข้อที่๔, ๖ และ ๗