ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ในเมื่อเอ่ยถึง"ลิลิตพระลอ" ใน
ฐานะคนแพร่ ขอเอาสถานที่ท่องเที่ยวตามเรื่องนี้มาให้ท่านสมาชิกท่านอื่นๆชมนะครับ ขออนุญาตท่านเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ
พระธาตุพระลอ เป็นต้นกำเนิดของวรรณคดีเรื่องลิลิตพระลอ ซึ่งจัดว่าเก่าแก่ที่สุด สันนิษฐานว่าน่าจะแต่งขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น การเดินทาง ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 101 ประมาณ 24 กิโลเมตร แยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 103 อีกราว 18 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาสู่อำเภอสองใช้เส้นทางหมายเลข 1154 จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปอีก 3 กิโลเมตรถึงพระธาตุพระลอ วัดธาตุพระลอ ตั้งอยู่ที่ ม. 1 บ้านธาตุพระลอ ต. บ้านกลาง อ. สอง จ. แพร่ ห่างจากอำเภอสอง 2.5 ก.ม.
รายละเอียด
พระธาตุพระลอ เป็นโบราณสถานที่มีประวัติเกี่ยวเนื่องกับเวียงสอง เมืองโบราณที่กล่าวถึงวรรณคดีไทยเรื่องลิลิตพระลอ และเป็นที่ประดิษฐานพระศรีสรรเพชญ พระคู่บ้านคู่เมืองของอำเภอสอง ภายในวัดมีรูปปั้นของพระลอ พระเพื่อน พระแพง ประวัติความเป็นมา เิิดิมวัดพระธาตุพระลอนี้เดิมเรียก ธาตุหินส้ม เพราะแต่เดิมก่อนที่จะสร้างพระธาตุนั้นพบว่้ามีซากอิฐและหินกองใหญ่อยู่ หินนี้มีลักษณะเป็นหินส้ม แต่ต่อมาภายหลังได้เปลี่ยนแปลงชื่อเป็น พระธาตุพระลอ การก่อสร้างสันนิฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เนื่องจากมีการขุดพบโบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น ดาบ และพระพุทธรูป ซึ่งเป็น ศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย หล่อด้วยตะกั่ว รูปแบบเจดีย์เป็นทรงลังกา พ.ศ. 2325 ได้รับพระราชทานวิสุึงคามสีมา พ.ศ. 2521จังหวัดให้สร้างอนุสาวรีย์พระลอ พระเพื่อนพระแพงขึ้นในบริเวณวัด เป็นรูปปั้นของกษัตริย์ทั้งสามพระองค์ที่ถูกทหารยิงด้วยธนูจนสิ้นพระชนม์ ประเพณีการนมัสการพระธาตุพระลอกำหนดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 เหนือของทุกปี พระธาตุพระลอ อยู่ที่ตำบลบ้านกลาง ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1154 กม.ที่ 54 ห่างจากอำเภอสอง ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นพระธาตุเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์เพื่อระลึกถึงความรักอมตะของพระลอแห่งนครแมนสรวง และพระเพื่อน-พระแพง แห่งเมืองสรอง
ที่มา :
http://www.phrae.go.th/Tourist/Song-paloo.htmพระลอตำนานรักอมตะ พระลอเป็นวรรณกรรมอมตะของชาติไทยที่มีต้นฉบับมาจากนิยายรักพื้นบ้านเมืองเหนือ ที่เชื่อกันว่าสถานที่เกิดเหตุ คือเมืองสรวง และเมืองสรองนั้นมีอาณาเขตส่วนหนึ่งอยู่ในจังหวัดแพร่ หรือเหตุเกิดขึ้นในเมืองแพร่นั่นเอง ดังนั้น เราจึงกล่าวได้ ว่า เรื่องพระลอคือนิยายรักของชาวเมืองแพร่ แรกเริ่มนิยายรักเรื่องพระลอนี้คงจะเป็นเพียงนิทานพื้นบ้านแต่ในยุคสมัยต่อ ๆ มามากวีชาวเหนือได้รจนาขึ้นเป็นค่าว เป็นซอ หรือ เป็นบทกวีและลำนำเพลงขึ้นขับขานสืบต่อ กันไป จนในราวยุคต้นกรุงศรีอยุธยา ก่อนยุคสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จึงมีการนำเรื่องพระลอมาแต่งเป็นลิลิตสุภาพขึ้น โดยมีผู้แต่งช่วยกันแต่งหลายคน จากนั้นเรื่องพระลอจึงเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางมากขึ้น กระทั่งในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ สมัยรัชกาลที่ 6 โบราณคดีสโมสรแหล่งรวมนักปราชญ์ราชบัณฑิตทั้งหลายในยุคนั้นต่างก็ พร้อมใจกันยกเรื่อง ลิลิตพระลอนี้ขึ้นเป็นยอดของบทกวีประเภทลิลิตสุภาพของไทยและนับ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเรื่องพระลอจึงมิใช่นิยายรักพื้นบ้านเฉพาะของชาวแพร่ เท่านั้น หากแต่ยังเป็นวรรณกรรมอมตะชิ้นเอกของชาวไทยทั้งมวลด้วย
สำหรับความเกี่ยวพันในเรื่องสถานที่ระหว่างเมืองแพร่กับเรื่องพระลอนั้น เชื่อกันว่าเมืองสรวงก็คืออำเภอสองในปัจจุบัน โดยสืบค้นจากพงศาวดารโยนก กล่าว่า ? เจ้าฟ้าเมืองนายกับเจ้าฟ้าเมืองเชียงทองสองพี่น้อง ยกรี้พลมาตีฟ้าเมืองต่าง ๆ ได้เมืองเชียงราย เชียงแสน เมืองลอ เมืองพะเยา
ลุถึงเดือน 11 ขึ้น 2 ค่ำ ปีเดียวกันยกกองทัพจากแก่งเมืองพะเยาระยะทางแปดพันวา ไปแรมทางเมืองสะเอียบ ยกจากสะเอียบไปแรมป่าเลายกจากป่าเลาไปแรมเมืองสองระยะทางหมื่นวายกจากเมืองสองไปแรมป่าเสี้ยวยกจากป่าเสี้ยวไปแรมเมืองแพร่ ? ดังนั้น หากพิจารณาจากพงศาวดารนี้ เมืองสองจึงเป็นเมืองโบราณที่สร้างมานานนับพันปีทีเดียวนอกจากนั้นพงศวดารเมืองน่านยังกล่าวถึงเมืองสองไว้ว่า ?จุลศักราช 789 พญาน่าน ตนชื่อ อุ่นเฮือน ได้กรี้พลลงมาตีเมืองเทิง เมืองสอง ได้ชัยชนะ กวาดต้อนผู้คนไปเป็นจำนวนมาก ?
จากหลักฐานต่าง ๆ ดังกล่าว นักวรรณคดีจึงเชื่อว่าเมืองสรวง เมืองของพระลอ ก็คือเมืองสอง ในปัจจุบันได้กล่าวมาแล้วนั่นเอง สาเหตุที่เชื่อเช่นนี้นั้น นอกจากความเป็นเมืองเก่าขนาดใหญ่ของเมืองสองแล่ว เมืองก็ยังมีโบราณวัตถุโดบราณสถานเก่าแก่ ให้เห็นหลายประการ เช่นที่ตำบลบ้านกลาง มีร่องรอยเป็นตัวเมือง มีมูลดินถมเป็นกำแพงเมืองสามชั้นล้อมรอบเนื้อที่ประมาณ 500 ไร่เศษ นอกจากนั้นยังมีสถานที่อื่น ๆ ทีมีชื่อพ้องกับเรื่องพระลออีกหลายแห่ง เช่น มีแม่น้ำ กาหลง เด่นนางฟ้อน ถ้ำปู่เขาสมิงพราย เป็นต้น และนอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมีสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งคือ พระธาตุพระลอ อยู่ห่างจากเมืองสองออกไปทางทิศเหนือ ที่เชื่อกันว่าก็มีเรื่องราวเกี่ยวพันกับเรื่องพระลอ จนทางจังหวัดได้จัดสร้างรูปปั้นพระลอ พระเพื่อน พระแพง ขึ้นไว้ในบริเวณวัดด้วยเช่นกัน
เรื่องพระลอเริ่มต้นขึ้นด้วยสงครามระหว่างสองเมือง คือเมืองสรวงของท้าวแมนสรวง และเมืองสรองของท้าวพิมพิสาคร ผลของการสงครามทำให้เมืองทั้งสองกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาต พระลอซึ่งภายหลังได้เป็นเจ้าเมืองสรอง เป็นชายหนุ่มรูปงาม ที่ความงามของพระองค์ได้รับการขับขานเป็นบทเพลงสรรเสริญที่ขจรขจายไปจนถึงหุของ พระเพื่อน พระแพง สองราชธิดาสาวของเมืองสรองด้วยวิบากกรรมแต่หนหลังทำให้สองพระธิดาเกิดมีใจปฏิพัทธ์ในพระลอทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยพบ จึงร่วมกับพี่เลี้ยงวางแผนให้กวีแต่งบทสรรเสริญความงามของทั้งสองออกขับขานไปบ้าง พร้อมกันนั้นพระพี่เลี้ยงของสองธิดายังไปขอความช่วยเหลือปู่เจ้าสมิงพราย ผู้วิเศษประจำเมือง ให้ใช้เวทมนตร์เรียกพระลอมาหา ด้วยอิทธิอำนาจแห่งปู่เจ้าสมิงพราย พระลอมิอาจทานอำนาจมนตร์อยู่ได้ แม้จะถูกทัดทานด้วยความรักจากทั้งแม่และเมีย ต้องเสด็จมายังเมืองสรองพร้อมด้วยนายแก้ว นายขวัญ สองพี่เลี้ยงระหว่างทาง พระลอเสด็จลงเสี่ยงน้ำที่แม่น้ำกาหลงผลการเสี่ยงบอกว่าพระลออาจต้องเสียพระชนม์หากยังเสด็จไป แต่กระนั้นด้วยความมานะ และอำนาจมนตร์แห่งปู่เจ้าสมิงพราย พระลอก็ยังคงเสด็จมุ่งหน้าไปยังเมืองสรองต่อไป
และในที่สุด พระลอก็สามารถเสด็จเข้าไปจนถึงสวนขวัญ อุทยานหลวงของเมืองสรองได้สำเร็จ ด้วยการชักนำของไก่แก้วที่ปู้เจ้าสมิงพรายเสกมา และพระเพื่อน พระแพง ก็ได้พบกับพระลอรักกัน และเป็นของกันและกันด้วยผลแห่งวิบากกรรมแต่หลังจากที่มีความสุขกันอย่างลับ ๆ ไม่นาน ความก็ทราบไปถึงพระราชบิดาแห่งพระเพื่อน พระแพง
พระองค์เสด็จมาลอบดูด้วยตนเอง ครั้นเห็นความงานสง่าของพระลอเข้าก็นึกรักและให้อภัยจึงเสด็จกลับ แต่พระเจ้าย่าของพระเพื่อน พระแพง ผู้ซึ่งสูญเสียสามีสุดที่รักไปในการสงครามกับเมืองสรวงกลับไม่ยอม พระเจ้าย่าส่งทหารเข้ามาล้อมสวนขวัญ พระลอ พระเพื่อน พระแพง ต่อสู้จนถูกลูกธนูที่ยิงมาดังห่าฝนติดเต็มร่าง ยืนตายอยู่เคียงกันในที่สุด
เมื่อพระราชบิดาของพระเพื่อน พระแพง ทรงทราบเรื่องจึงสั่งให้ประหารชีวิตพระเจ้าย่าเสียแล้วจึงส่งสารไปยังเมืองสรวง ทั้งสองเมืองจัดการพระศพของพระลอ พระเพื่อน พระแพง แล้วจึงสร้างเจดีย์เล็ก ๆ ขึ้น จากนั้นเมืองทั้งสองจึงคืนสู่ความเป็นไมตรีกันสืบมา
หากท่านผู้อ่านได้อ่านเรื่องพระลอตั้งแต่ต้นจนจบ ก็จะพบว่าเรื่องพระลอนั้นมิใช่เป็นเพียงเรื่องราวความรักของคนหนุ่มสาวเท่านั้น หากแต่ยังเป็นเรื่งราวความรักของแม่กับลูก สามีกับภรรยา นายกับบ่าว ที่เจือปนไปด้วยเสียสละ เวทมนตร์อาถรรพ์ ความสนุกสนานตื่นเต้น ความทุกข์ยากความจากพราก อันล้วนเป็นเรื่องราวที่ซาบซึ้งตรึงใจตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับรูปแบบ การประพันธ์ด้วยสำนวนโวหารอันไพเราะสละสลวย จนถึงขนาดเป็นยอดแห่งวรรณคดีประเภทลิลิตแล้วพระลอจึงเป็นเรื่องที่น่าอ่านชวนติดตามยิ่งเล่มหนึ่ง