"รู้ธรรม เห็นธรรม เข้าใจธรรม"แต่ยังไม่ได้ทำ เพราะมัวไปหลงกล่าวธรรม ธรรมที่รู้ ธรรมที่เห็น และธรรมที่เข้าใจ จึงไม่เป็นรูปธรรม
เพราะยังมิได้ตั้งไว้ทรงอยู่ใธรรมที่รู้ที่เห็นที่เข้าใจ จึงเพียงได้แต่สัญญาในธรรม คือการจำได้หมายรู้ มิได้ทรงอยู่ เพราะขาดการกระทำที่ต่อเนื่อง....กิเลสมารมันหลอกให้เราหลงทางเสียเวลาไป หลงดีใจ ภูมิใจ ตามกิเลสไม่ทัน จึงกล่าวธรรมเพื่อสนองตัณหา คืออยากที่จะให้ผู้ฟังได้รู้และเข้าใจแล้วนำไปปฏิบัติ มิได้กล่าวธรรมเพื่อธรรม เพราะจิตเข้าไปหวังผลในการกล่าวธรรม เสียเวลาไปหลายปี เพียงเพราะขาดสติไม่ถึงเสี้ยวนาที.....คงต้องกลับมาเริ่มใหม่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะลบสัญญาเก่าๆได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว จิตมันปรุงแต่งในอารมณ์ มันไปรู้ก่อนที่สภาวะธรรมจะเกิด ต้องแก้ไขปรับปรุง ควบคุมจิตให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อจะให้พบทางเก่าที่เราเคยเดิน ซึ่งเราทิ้งไปนาน ทางมันจึงลางเลือน
ไม่ชัดเจน คงต้องค่อยเป็นค่อยไป คลำทางต่อไปจนกว่าจะเจอ...
:059:นึกถึงน้ำในถังที่ตั้งลืมไว้กลางแดด มันมีแต่จะเหือดแห้งระเหยไป เพราะความร้อนจากแสงแดดที่แผดเผา มันจะระเหยไปทุกวัน
ซึ่งกว่าจะรู้ตัวระลึกได้ น้ำในถังมันก็เหือดแห้งไปหมดแล้ว เหลือแต่ถังเปล่าที่ไม่มีน้ำ ต้องเสาะหาน้ำมาใหม่ มาใส่ให้เต็ม และนำถังไปเก็บไว้ในที่ที่เหมาะสม หมั่นดูแลรักษาและเติมน้ำให้เต็มอยู่เสมอ....
:059:แด่ความน้อยเนื้อต่ำใจในขณะแสดงธรรม
เชื่อมั่น-ศรัทธาในทางธรรม
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
:054:บทความบทนี้เขียนไว้เมื่อ วันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๓๖ ก่อนที่จะออกจากวัดถ้ำเสือวิปัสสนา จังหวัดกระบี่ เพื่อไปหาที่เก็บตัวปฏิบัติธรรม
:059:และความรู้สึกนี้กลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง ขณะนั่งอยู่บนธรรมมาสน์เพื่อรอผู้ปฏิบัติธรรม(เพราะเลยเวลาที่กำหนดไว้ไปมาก)จึงได้พิจารณา
อารมณ์ที่เกิดขึ้นและดับมันได้อย่างรวดเร็ว
๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๒ เวลา ๑๒.๐๗ น. ณ ชายป่าห้วยขาแข้ง อุทัยธานี