:059:มองผ่านม่านหน้าต่าง ท้องฟ้ากว้างครึ้มเมฆฝน
เมฆน้อยลอยลมบน แล้วร่วงหล่นสู่ธารา
หยดน้ำจากหยดน้อย แล้วค่อยค่อยรวมกันมา
กลายเป็นธารธารา ไหลจากป่ามาสู่นาคร
สายน้ำสายชีวิต รอยลิขิตตามขั้นตอน
สายน้ำไม่ไหลย้อน จากนครสู่คงคา
แสงแดดมาแผดเผา ให้ร้อนเร้าลอยสู่ฟ้า
ระเหยเป็นไอมา กลับสู่ฟ้าแล้วรวมตัว
กลายเป็นก้อนเมฆน้อย ที่ไหลลอยบนนภา
รวมกันมากขึ้นมา บนท้องฟ้าเป็นเมฆดำ
แล้วตกลงสู่พื้น ทุกค่ำคืนเช้าและค่ำ
ท้องฟ้าที่มืดดำ หลังฝนพรำสว่างมา
หมุนเวียนและเปลี่ยนแปลง ทุกหนแห่งอนิจจา
เปลี่ยนไปตามเวลา เมื่อผ่านมาแล้วจากไป
ท้องฟ้ายามหน้าฝน ที่มืดมนก็สดใส
ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ถ้าไม่ไปติดยึดมัน
ยึดถือก็เป็นทุกข์ ไร้ความสุขทุกข์มหันต์
ปล่อยวางบ้างแล้วกัน แล้วทุกข์นั้นจะมะลาย
รักชอบจึงยึดมั่น ในสิ่งนั้นกลัวสูญหาย
หายไปใจเสียดาย อยากจะได้กลับคืนมา
ทุกอย่างไม่เที่ยงแท้ ต่างผันแปรอนิจจา
ปล่อยวางบ้างเถิดหนา แล้วชีวาจะสบาย....
:059:แด่ท้องฟ้ายามหน้าฝนที่มืดมนก่อนฝนมา
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๙ กรกฎาคม ๒๕๕๒ เวลา ๑๐.๕๗ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายแดนประเทศไทย