หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน ถือเป็นเกจิอีกรูปหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการทำตะกรุด
โดยตะกรุดของท่านมีชื่อว่า ตะกรุดดอกทอง แต่เพื่อความไพเราะ ท่านจึงได้เปลี่ยนชื่อเรียกเป็น
ตะกรุดดอกไม้ทอง ตะกรุดดอกไม้ทองเป็นตะกรุดที่มีพุทธคุณเด่นทางด้านเมตตามีเรื่องเล่ากันว่า ในแถบบางบาล อยุธยามีลูกศิษย์ของท่านคนหนึ่งทำตะกรุดตกบนพื้นและหญิงสาวข้างบ้านก็ได้เก็บมาคืนชายหนุ่มผู้นี้ตั้งแต่นั้นมาหญิงสาวก็เกิดหลงใหลชายหนุ่มอย่างมากมายพ่อของฝ่ายหญิงเห็นอาการแล้วเหมือนคนโดนของ จึงพาไปหา หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา อยุธยา ท่านมีชื่อเสียง
ทางด้านการแก้คุณไสย แต่ท่านก็ยังแก้ไม่หาย จนทราบภายหลังว่าสาเหตุเกิดจากตะกรุดดอกไม้ทองของหลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน หลวงพ่อเมี้ยน จึงได้ถามถึงวิธีการแก้กับหลวงพ่อพูน และหลังจากแก้ได้แล้ว หญิงสาวคนนี้ก็ไม่มีอาการดังกล่าวอีกเลย หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน ได้เรียนวิชาการทำตะกรุดดอกไม้ทองนี้มาจาก หลวงพ่อสนั่น วัดเสาธงทอง จ.อ่างทอง ซึ่งท่านบอกว่า
ถ้าทำดีๆ ตะกรุดท่านสามารถอยู่ปืนได้ (มหาอุต) ซึ่งประสบการณ์เรื่องยิงไม่ออกก็มีให้เห็นกันมาแล้วมากมาย โดยเป็นเหตุการณ์ที่ลือลั่นที่อำเภอบางไทรมาแล้ว เรื่องมีอยู่ว่ากระเป๋ารถประจำทาง ถูกคนร้ายดักปล้นรถ โดยนายคนนี้ก็ฮึดสู้ เอากระบอกตั๋วตีแสกหน้าคนร้าย แตกหงายเก๋งไป คนร้ายอีกคนก็กระหน่ำยิง โดยมาทราบภายหลังว่าเป็นปืนขนาด 11 มม. ยิงไม่ออก กระเป๋ารถก็หันกลับมาสู้ พร้อมด้วย คำด่าแม่ ปัง!! คราวนี้กระสุนโดนเข้าที่แขนคนร้ายตกใจวิ่งหนีไปกันหมด แต่ก็มีคนหนึ่งโดนจับได้คาหนังคาเขาเรื่องนี้เป็นเรื่องที่โด่งดังมาก ที่สถานีตำรวจบางไทรในยุคนั้นซึ่งกระเป๋ารถคนนี้ก็ใช้ตะกรุดดอกไม้ทองของหลวงพ่อพูน วัดบ้านแพนอยู่เลยทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อพูนโด่งดังมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันนี้หลวงพ่อท่านยังแข็งแรงและก็ยังทำตะกรุดดอกไม้ทองนี้อยู่ด้วย ผมถามท่านว่าหลวงพ่อทำคราวละกี่ดอก ท่านตอบว่า ครั้งล่ะ 100 ดอก ทำเก็บเอาไว้พอมีงานทีหมดทุกทีทำไม่ทันและผมก็ถามว่าวันเวลาที่ทำมีการกำหนดหรือเปล่าท่านตอบว่า ไม่มีหรอก ท่านใดสนใจก็แวะไปกราบท่านได้ครับที่วัดบ้านแพน อยุธยานี่เอง (บางทีท่านอาจไม่อยู่วัดเพราะมีกิจนิมนต์เยอะมาก ผมถามว่าหลวงพ่อเหนื่อยไหม ท่านตอบอย่างอารมณ์ดีว่าข้าไม่เหนื่อยหรอก ข้าเป็นคนนั่งไม่ใช่คนขับรถนี่ และท่านก็หัวเราะเบาๆอย่างอารมณ์ดี )