ผมก็อายุ16ปีผมอยากสักน้ำมันครับผมอยากช่วยเหลือคนที่อ่อนแอกว่าผมควรจะสักอะไรดีครับ ผมไม่ได้อยากสักตามแฟชั่นนะครับ
เมื่อก่อน ตอนรุ่นราวคราวเดียวกับคุณ อายุประมาณสัก ๑๕-๑๖ ปี ก็เคยคิดแบบคุณเช่นกัน
จำได้ว่าตอนนั้นไปหาหลวงพี่ติ่ง ท่านไม่สักให้ ท่านก็บอกว่า "ไว้เรียนจบค่อยมาสัก"
แม้ในคราวอุปสมบทครั้งแรกที่วัดบางพระ ความคิดนั้นก็ยังไม่เปลี่ยนไป
แต่พอได้มาอุปสมบทครั้งที่ ๒ ที่วัดน้อยเจริญสุข ได้ศึกษาภาคปริยัติ และลงมือปฏิบัติมากขึ้น
จึงทำให้ได้รู้เรื่องราวต่างๆมากขึ้น พิจารณาไตร่ตรองดูตามธรรม-วินัยแล้ว เห็นว่าไม่ใช่ทาง
ตอนนี้ผมอายุ ๒๒ ปี เรียนจบปริญญาตรีแล้วครับ กำลังศึกษาต่อปริญญาโทอยู่
และไม่เคยนึกคิดที่จะไปสักอีกเลย ถึงแม้จะเรียนจบแล้วก็ตาม
การช่วยเหลือคนเป็นสิ่งดี เป็นบุญกุศล ถือเป็นทาน เป็นการให้ชนิดหนึ่ง
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นคือ การเป็นกัลยาณมิตร คอยชี้แนะ,ตักเตือน,ช่วยเหลือ,ให้กำัลังใจ ให้ผู้อื่น
ช่วยเหลือคนทั้งแรงกาย แรงใจ หรือชี้แนะแนวทางเพื่อไปสู่ความสุขในการดำรงชีวิตในเบื้องต้น
และเพื่อเป้่าหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา คือการละกิเลส พระนิพพานอันเป็นบรมสุขในเบื้องปลาย
ได้อานิสงส์ ได้ประโยชน์กว่ากันมหาศาล ดังพุทธพจน์ที่กล่าวไว้ว่า
“สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ” แปลว่า "การให้ธรรมะเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง"๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
"หันไปรอบทิศ ให้มีกัลยาณมิตรรอบตัว"