ผู้เขียน หัวข้อ: อานิสงส์การ ถวายฐานพระฐานบัวประดิษฐานพระประธาน พระบูชา พระประจำวันเกิด  (อ่าน 10450 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ provincial_ict

  • ปฐมะ
  • *
  • กระทู้: 2
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
อานิสงส์การ สร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐาน

พระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐาน  หมายความว่าอย่างไร?  หมายความว่าพระรูปของพระพุทธเจ้า  การสร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานจะมีอานิสงส์อย่างไรบ้าง?  การสร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานมีอานิสงส์มากมายหลายประการ  เหลือที่จะนับจะประมาณได้  จะขอยกมาแสดงไว้ในที่นี้แต่พอเป็นตัวอย่าง  หรือพอเป็นแนวทางเท่านั้นคือ

๑. ผู้สร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐาน  ชื่อว่าได้บำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการคือ

     ๑) ทานมัย  บุญสำเร็จด้วยการให้ทาน  หมายความว่า  ผู้นั้นต้องเอาพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานไปถวายพระสงฆ์ไว้ในวัดใดวัดหนึ่ง  เพื่อให้ภิกษุสามเณรหรืออุบาสกอุบาสิกาได้กราบไหว้สักการะบูชา  และก่อนที่จะได้ถวายตัวเองก็ต้องบริจาคเงินสร้างหรือเช่ามาแล้วนี้เป็นทานมัยกุศลชั้นต้น  ต่อมาก็มีการเฉลิมฉลองอีก  ตัวเองก็บริจาคจตุปัจจัยไทยทานถวายพระทำบุญ  นี้เป็นทานมัยกุศลชั้นที่ ๒  ถึงแม้ว่าจะสร้างไปไว้ที่บ้านเพื่อสักการะบูชา  ก็ต้องปฏิบัติในทำนองเดียวกันนี้  ดังนั้นผู้สร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานจึงชื่อวาได้บำเพ็ญทานมัยกุศลไปด้วย
    ๒) ศีลมัย  บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล  หมายความว่า  ก่อนแต่จะทำการถวายทานหรือถวายพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐาน  เจ้าภาพก็ต้องสมาทานศีลเสียก่อน  ศีลที่สมาทานคราวนี้เกิดขึ้นเพราะการสร้าพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานเป็นปัจจัย  ดังนั้นผู้สร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐาน  จึงชื่อว่าได้บำเพ็ญศีลมัยกุศลไปด้วย
    ๓) ภาวนามัย  บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา  คำว่าภาวนานั้นมีสองอย่างคือ  สมถภาวนา ๑  วิปัสสนาภาวนา ๑  การได้เห็นพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานด้วยตาได้กราบได้ไหว้ด้วยกาย  ได้เปล่งวาจาระลึกถึงพระพุทธคุณ  ใจก็น้อมนึกไปตาม  ว่าผู้นั้นได้เจริญพุทธานุสสติกรรมฐาน  จัดเป็นสมถกรรมฐานเป็นมหากุศล  ตายด้วยจิตดวงเดียว  อย่างต่ำต้องมาเกิดเป็นมนุษย์  อย่างกลางสามารถไปเกิดในสวรรค์  อย่างสูงสามารถไปสู่พระนิพพานได้  ดังพระปิติมัลละเถระเป็นตัวอย่าง  คือพระเถระนั้นได้กวาดลานวัดแต่เช้าตรู่  ได้เห็นพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานของพระพุทธเจ้า  ซึ่งเทวดานฤมิตนั้นขึ้น  พอท่านเห็นก็เกิดปีติแล้วยกปีติขึ้นพิจารณา  เจริญวิปัสสนากรรมฐานได้บรรลุมรรคผลนิพพาน  ดังนั้นผู้สร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานจึงชื่อว่าได้บำเพ็ญภาวนากุศลไปด้วย
    ๔) อปจายนมัย  บุญสำเร็จด้วยการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อท่านผู้เจริญโดยคุณ  โดยวัย  โดยชาติ  การไหว้พระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐาน  ไหว้พระสงฆ์  หรือไหว้ผู้แก่กว่า  ชื่อว่าได้ประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อท่านผู้เจริญ  จัดเป็นบุญกิริยาวัตถุ  ดังนั้นผู้สร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานจึงชื่อว่าได้บำเพ็ญอปจายนมัยกุศลไปด้วย
    ๕) ไวยาวัจจมัย  บุญสำเร็จด้วยการช่วยขวนขวายในกิจที่ชอบ หมายความว่า  ในการสร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานนั้น  จะต้องอาศัยคนเป็นจำนวนมาก  การวิ่งเต้นช่วยกันในงานหล่อพระในงานฉลองพระ เป็นต้น  ถือว่าเป็นมหากุศลมีผลไม่น้อย เช่น พระเจ้าจันทปัชโชติ  พระไวยาวัจจกเถระ  เป็นตัวอย่างดังนี้คือ
       ก. พระเจ้าจันทปัชโชติ  ได้ช่วยนายรับบาตรพระมาใส่อาหารและนำกลับไปถวายพระ  ปรารถนาเป็นพระเจ้าแผ่นดิน  และปรารถนาให้มียานพาหนะดี  เดินทางได้วันละหลายๆ โยชน์  และปรารถนาให้ตนมีอำนาจวาสนามาก  ครั้นตายแล้วก็ได้ไปเกิดเป็นพระเจ้าแผ่นดินมีนามว่า  พระเจ้าจันทปัชโชติสมความปรารถนา
       ข. พระไวยาวัจจกเถระ  ในศาสนาของพระพุทธเจ้าพระนามว่าพระวิปัสสี  ท่านเป็นผู้ช่วยเหลือในกิจการของวัดและได้ช่วยเหลือในงานทำบุญต่างๆ ตายจากชาตินั้นได้ไปเกิดในสวรรค์  จุติมาเกิดเป็นพระราชาได้ออกบวชเจริญวิปัสสนากรรมฐานสำเร็จเป็นพระอรหันต์  แตกฉานในปฏิสัมภิพาทั้ง ๔  ได้วิโมกข์ ๘  และอภิญญา ๖  ดังนั้นผู้สร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานจึงชื่อว่าได้บำเพ็ญไวยาวัจจมัยกุศลไปด้วย
     ๖) ปัตติทานมัย  บุญสำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ  หมายความว่า  ผู้ที่ได้สร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานจำเป็นอยู่เองที่จะบอกญาติสนิทมิตรสหายให้ทราบ  เพื่อร่วมอนุโมทนาในการฉลองพระ  การถวาย เป็นต้น  นอกจากนั้นยังจะต้องอุทิศส่วนกุศลส่วนบุญให้แก่บิดามารดาปู่ย่าตายาย  ท่านผู้มีพระคุณ  เทพบุตร  เทพธิดา เป็นต้นอีก  ดังนั้นผู้สร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานจึงชื่อว่าได้บำเพ็ญปัตติทานมัยกุศลไปด้วย
    ๗) ปัตตานุโมทนามัย  บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ  หมายความว่า เมื่อผู้สร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานได้บอกบุญแจ้งข่าวแก่ญาติมิตรแล้ว  ญาติมิตรเหล่านั้นก็จะต้องพากันอนุโมทนาต้อนรับเป็นอย่างดี  เมื่อผู้อื่นมาอนุโมทนาท่านเจ้าภาพก็พลอยปลื้มปีติอนุโมทนาสาธุการตอบอีก  การปฏิบัติอย่างนี้  จัดเป็นมหากุศลด้วยกันทั้งสองฝ่าย  ดังนั้นผู้สร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานจึงชื่อว่าได้บำเพ็ญปัตตานุโมทนามัยกุศลไปด้วย
     ๘) ธัมมัสวนมัย  บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม  หมายความว่า  ในการสร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานนั้น  เจ้าภาพบางคนก็ได้นิมนต์พระไปสวดชะยันโต เจริญพระพุทธมนต์  แสดงธรรม  และเจ้าภาพบางคนได้พิมพ์หนังสือธรรมแจกเป็นธรรมทานในงานฉลองพระ เป็นต้น  การปฏิบัติเช่นนี้  ชื่อว่าได้ให้ธรรมเป็นทานด้วย  ตัวเองและผู้ได้มาร่วมงานก็ได้ฟังธรรมไปด้วย  ดังนั้นผู้สร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐาน  จึงชื่อว่าได้บำเพ็ญธัมมัสวนมัยกุศลไปด้วย
     ๙) ธัมมเทสนามัย  บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม  หมายความว่า  การที่พระสงฆ์ได้มาสวดมนต์สวดชะยันโต  หรือแสดงธรรมนั้น  ก็เพราะเจ้าภาพเป็นผู้อาราธนามา  นี้ชื่อว่าเจ้าภาพได้บุญอันสำเร็จจากการแสดงธรรมแล้ว  ดังนั้นผู้สร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐาน  จึงชื่อว่าได้บำเพ็ญธัมมเทสนามัยกุศลไปด้วย
    ๑๐)ทิฏฐุชุกัมม์  การทำความเห็นให้ตรง  หมายความว่า  กุศลนั้นมีอยู่ ๔ ชั้นคือ
               ๑.กุศลชั้นกามาวจร  ได้แก่ มหากุศลต่างๆ มีการสร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐาน ถวายทาน สร้างศาลา ฟังธรรม แสดงธรรม เป็นต้น
               ๒.กุศลชั้นรูปาวจร  ได้แก่ การเจริญสมถกรรมฐาน  เช่น พุทธานุสสติ เป็นต้น
               ๓.กุศลชั้นอรูปาวจร  ได้แก่ การเจริญอรูปกรรมฐาน ๔  มีอากานัญจายตนะ เป็นต้น
               ๔.กุศลชั้นโลกุตตระ  ได้แก่ การเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
การที่ผู้สร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานได้เกิดศรัทธา  จนถึงสละเงินออกมาสร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานได้  และออกมาทำทานในงานฉลองพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐานได้  ชื่อว่าเป็นผู้มีความเห็นตรงเห็นถูกแท้  เพราะเป็นบุญของตนเอง  ไม่ใช่บุญของใครเลย
               ๑.ผู้สร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐาน  ชื่อว่าเป็นผู้ไม่ประมาท
               ๒.ผู้สร้างพระพุทธรูปและพระฐานบัวประดิษฐาน  ชื่อว่าเป็นผู้ได้เตรียมตัวก่อนตาย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
การถวายฐานบัวประดิษฐานพระประธาน พระบูชา พระประจำวันเกิด
   ทายกมีจิตอุทิศถวายฐานบัวประดิษฐานพระประธาน  พระประจำวันเกิด จัดเป็นการถวายแก่พระพุทธเสนาสนะด้วยครุภัณฑ์  เพื่อประโยชน์แก่พระศาสนา เพราะประดิษฐานนั้นอยู่ในร่มมีอายุยืนนานกว่าแม้ถ้าเสาหินก็ดี  เสาไม้ก็ดี  บานประตูก็ดี   หน้าต่างก็ดีโบสถ์วิหารย่อมชำรุดไปย่อมเปียกในเมื่อฝนตก,     ทั้งแห้งเพราะแดดเผา,      ซึ่งต้องทำนุบำรุงตามกาล   คงไว้แต่ที่ประดิษฐานและองค์ประธานเท่านั้นร้อยปี พันปี ก็อยู่คู่พระประธานพระบูชาประจำวันเกิด ที่ทายกอุทิศถวายไว้     เพื่อประโยชน์แก่ศาสสนะสถานนั้นเท่านั้น,   ควรดำริสร้างสิ่งนั้นไว้    แล้วน้อมเข้าไปเพื่อประโยชน์แก่ ศาสนะสถานนั้น ๆ ที่ประดิษฐานแด่พระบรมสารีริกธาตุสร้างไว้ดีแล้ว  ก็ควร ซึ่งเก็บรักษาเพื่อประจำโรงอุโบสถวิหารเป็นต้นนั้น  ส่วนผู้ใดจัดสร้างถวายถาวรวัตถุอื่นพึงทราบโดยนัยดังที่กล่าวแล้วนั้นนั่นแล. 
อันการจัดสร้างถวายทายกต้องถามการสงฆ์เสียก่อน   จึงควรจักสร้างถวาย  :- เป็นอันทัพสัมภาระของสงฆ์ ทำให้เป็นปกติ  ก็ควร.  ในทัพสัมภาระแม้อย่างอื่น  ก็มีนัยเหมือนกันนี้.
?เธอควรจะกล่าวว่า  ข้าแต่ท่านผู้เจริญ !  เสนาสนะประดิษฐานพระประธานที่คณะกระผมสร้างด้วยทัพสัมภาระนี้จักเป็นของน้อมถวายแด่พระอริยบุคคล,     ขอสงฆ์บำรุงรักษาเป็นของพระศาสนาเถิด?
   ในเรื่องฐานบัวประดิษฐานพระประธาน พระบูชาประจำวันเกิด   มีข้อน่าคิดดังนี้ :-    ในร้อยปี พันปีข้างหน้า     แต่กาลภายหน้า   ไม้สักแลไม้มงคลทั้ง 9 ย่อมเป็นของหาได้ยาก  ชนทั้งหลายผู้มีชื่อนี้ ๆ เป็นผู้นี้มีศัทธา (ปสนฺนาการํ กโรนฺติ) จัดสร้างถวาย พระรูปนี้ดำริ สงฆ์หมู่ ๆ นี้อนุโมทนา  ครั้นนานวันหาประเมินค่ามิได้  ชนเห็นดีแล้วนำนวัตถกรรมมาไกลถึงพันโยชน์หนึ่งบ้าง    หมื่นโยชน์บ้าง,    จากที่เขาบ้าง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม้มงคลที่ใช้ในทำฐานพระบูชาพระประธานอุโบสถ อธิษฐาน

   ในทำฐานพระพุทธรูป ก่อนทำการแกะสลักตามหลักโหราศาสตร์ มักนิยมทำพิธีบรรจุมวลสารสลักชื่ออักขระโดยใช้ไม้มงคล 9 ชนิด ดังนี้
1. ไม้ราชพฤกษ์ (เดช หมายถึง อำนาจ อิทธิพล) ความยิ่งใหญ่และมีอำนาจวาสนา
2. ไม้ขนุน (อุตสาหะ หมายถึง มีความขยันหมั่นเพียรพยายาม เพื่อให้บรรลุความสำเร็จ) ผู้อุปการะ ผู้อุปถัมภ์ ผู้ให้คำปรึกษา หนุนขึ้นนำขึ้น ทำอะไรมีผู้ใหญ่ให้การส่งเสริม เกื้อกูลอุดหนุนหนุนจุนเจือ
3. ไม้ชัยพฤษ์ (ชินะ หมายถึง ชนะ) การมีชัย การมีโชคชัย ชนะศัตรู ชนะอุปสรรคต่างๆ
4. ไม้ทองหลาง (มูลละ หมายถึง ทรัพย์สมบัติ มรดก) มีทรัพย์สินเงินทองมากมายล้นเหลือ ล้นหลาม อลังการ แผ่ไปสุดสายตา
5. ไม้ไผ่สีสุก (ชีวะ สุขัง  อายู หมายถึง อายุขัย) มีความสุขกายสบายใจ ไร้ทุกข์ไร้โศกโรคภัย
6. ไม้ทรงบาดาล (พะลัง พะละ หมายถึง แข็งแกร่ง) ความมั่นคง หรือทำให้บ้านฐานะมั่นคงแข็งแรง แผ่ลงไปถึงชั้นน้ำรองแผ่นดิน
7. ไม้สัก (ศรี หมายถึง สิ่งที่เป็นศิริมงคล) ความมีศักดิ์ศรี ความมีเกียรติศักดิ์
8. ไม้พะยูง (บริวาร หมายถึงมีบารมี มีผู้รับใช้ มีผู้คอยช่วยเหลือ) การพยุงฐานะให้ดีขึ้น
9. ไม้กันเกรา  (อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต หมายถึง ปัดเคราะห์ป้องภัยให้ไกลตัว)ป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ หรืออีกชื่อหนึ่งว่า ตำเสา ซึ่งอาจหมายถึง ทำให้เสาเรือนมั่นคง

ไม้มงคลเหล่านี้จะลงอักขระที่เรียกว่า หัวใจผะเจ้า พระอิติปิโสได้แก่ อะสังวิสุโลปุสะพุ ภะ ลงบนฐานพระไม้ชนิดละอักขระ พร้อมทั้งปิดทองทั้ง 9 ชั้น โดยปักวนจากซ้ายไปขวา (ทักษิณาวรรต)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ฐานบัวประดิษฐานพระประจำวันเกิด พระประธานและฮวงจุ้ย
   
 ในทางฮวงจุ้ยแท่นประดิษฐานพระมองได้ว่าภพต่อ ๆ ไป หน้ามั่นคงไม่ตกต่ำ
1. ตำแหน่งเบื่องบนคือพระประจำวันเกิด พระประธาน องค์พระหันไปทางทิศตะวันออก ด้วยเหตุผลที่ว่าทิศตะวันออกเป็นทิศที่พระอาทิตย์ขึ้น แสงแดดในยามเช้าจะช่วยส่งเสริมชีวิตทั้งภพนี้ภพหน้าให้มีความเจริญรุ่งเรืองงอกงามผ่องใสและสดชื่น เพราะเป็นแสงที่ไม่แรงจนเกินไป
2. ฐานพระประธานนั้นจัดว่าครบองค์ประกอบของธาตุทั้ง 5 คือ น้ำ ไม้ ไฟ ดิน และทอง ฐานพระบูชาพระประธาน ประกอบไปด้วยไม้มงคลทั้ง 9 ชนิด(ธาตุไม้) บัว(ธาตุน้ำ) แสงแดดส่องถึงพระวิหารองค์พระบูชาประธานมีสีประดับด้วยทอง (ธาตุไฟ) มีดินคือสีรักษาเนื้อไม้ ดินสมบูรณ์(ธาตุดิน) และที่สำคัญจะต้องมีการตกแต่งอย่างสวยงามฝีมือปราณีตบรรจงจากไม้สักทอง (ธาตุทอง)
3. น้ำตกอันเป็นทิพ ซึ่งหล่อเลี้ยงดอกบัวองค์พระเสมอ "บัวหันเข้าหาองค์พระ" หมายถึงการเงินไหลเข้า เพราะธาตุน้ำอันเป็นทิพแทนความหมายของโชค (มหากุศลลวิบาก) ลาภการเงิน พระท่านประดิษฐานและองค์พระเรียกได้ว่าของฐานพระบูชาพระประธานนั้นเกี่ยวด้วยบุพเพนิวาส
4. บ่อน้ำ สระน้ำ (หรือขนาดองค์พระประจำวันเกิด พระประธานความศักดิ์สิทธิ)รูปทรงต้องพอเหมาะพอควรสมฐานะ การถวายแท่นประดิษฐานองค์พระ นั้นสิ่งที่จะต้องคำนึงถึง จะเป็นเรื่องของรูปทรงของฐานพระนั้น ในทางฮวงจุ้ยถือว่า ควรใช้รูปทรงโค้งมน ซึ่งฐานพระเป็นเช่นนั้นอยู่แล้วซึ่งจะถือว่าดีที่สุด เพราะทั้งเป็นที่ศักการะและยังจิตของมหาชนให้เอิบอิ่มด้วยการพุทธลักษณะ
5. พระองค์เล็ก บัวขนาดเล็ก พระองค์ใหญ่ บัวใหญ่ พระองค์พอเหมาะกับขนาดฐานประดิษฐานทำให้วิจิตรสวยงาม
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.bansadet.9f.com
http://www.freewebs.com/bansadat/9woodmongkol.htm


ออฟไลน์ provincial_ict

  • ปฐมะ
  • *
  • กระทู้: 2
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
[/img]


http://www.bansadet.9f.com
http://www.freewebs.com/bansadat/9woodmongkol.htm

ออฟไลน์ ลูกผู้ชายตัวจริง

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 741
  • เพศ: ชาย
  • กูจะกลับมากู้แผ่นดิน ให้พ้นภัยศัตรู
    • MSN Messenger - namo159@HOTMAIL.COM
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล