จากเพื่อนชาวเวปที่ไปกราบหลวงปู่โต๊ะ แห่งวัดยางงามตามกระทู้ข้างล่างนี้
http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,7914.0.html
http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,8317.0.html
กลัวว่าเพื่อนๆจะพลาดได้กราบพระดีๆอีกองค์หนึ่งในวัดยางงาม นั่นก็คือหลวงปู่ม่วงนั่นเอง
พระครูสุนทรจริยาวัตร (หลวงปู่ม่วง นาคเสโน) แห่งวัดยางงาม จ.ราชบุรี
อัตโนประวัต มีนามเดิมว่า ม่วง พุ่มโรจน์ เกิดเมื่อวันพุธที่ 21 สิงหาคม 2455 ปีชวด ณ บ้านหมู่ที่ 5 ต.ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ครั้นอายุ 20 ปี ถึงวัยเกณฑ์ทหาร นายม่วงได้เข้ารับการคัดเลือก ปรากฏว่าจับได้ใบดำ จึงตัดสินใจอุปสมบท เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2474 ณ พัทธสีมา วัดปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี โดยมีพระราชเขมาจารย์ ( หลวงพ่อเปราะ ) วัดช่องลม อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ (หลวงพ่อเปราะองค์นี้ก็สุดยอดแห่งพระเกจิอาจารย์เมืองราชบุรี เป็นศิษย์ของหลวงปู่ห้อง วัดช่องลม อ.เมือง จ.ราชบุรี พระอริยสงฆ์ยุคเก่าในอดีต หลวงปู่ห้องท่านสร้างเหรียญหล่อลักษณะรูปองค์พระจะคล้ายๆเหรียญของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร จนทำให้ในอดีตหลายคนสับสนนึกว่าเป็นของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน สมัยก่อนถ้าหลวงปู่ห้อง สักให้ใคร จะเหนียวทรหด ศาสตาวุธทำอันตรายไม่ได้ จนต้องมาให้ท่านรดน้ำมนต์ และทำพิธีถอนคาถาให้ ศาสตาวุธจึงจะทำอะไรคนคนนั้นได้ ) พระอาจารย์เทียน วัดป่าไก่ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาสุข วัดปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์ พระม่วงได้มุ่งมั่นศึกษาหาความรู้ในทางพระปริยัติธรรม เป็นที่ยอมรับของพระอาจารย์ และพระภิกษุรุ่นราวคราวเดียวกัน พ.ศ.2476 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี สำนักเรียนวัดปากท่อ พ.ศ.2478 สอบได้นักธรรมชั้นโท และพ.ศ.2480 จบพระปาฏิโมกข์ แม้ในชั้นแรก ท่านจะตั้งใจบวชเรียนเพียง 2-3 พรรษา แต่เมื่อได้ร่ำเรียนพระปริยัติธรรม และซาบซึ้งในรสพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านจึงไม่คิดลาสิกขา ตั้งใจเด็ดเดี่ยวหันหลังให้ชีวิตทางโลกอย่างสิ้นเชิง
ต่อมาท่านตัดสินใจเดินทางมาอยู่ที่วัดยางงาม ร่วมกับพระลูกวัด และชาวบ้าน และได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์พัฒนาวัดยางงามอย่างต่อเนื่อง จนทำให้วัดซึ่งแต่เดิมเป็นวัดตามชนบท ได้เริ่มฉายแววแห่งความสง่างามขึ้นตามลำดับ
ทางวัดยางงามได้จัดให้มีการสอนธรรมะ เพื่อสร้างประชาชนคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจธรรมมะ มีการเปิดโรงเรียนสอนพระอภิธรรมให้แก่ชาวบ้าน และผู้สนใจ มีชาวบ้าน และผู้สนใจมาร่วมเข้าเรียนกันอย่างมากมาย
งานด้านการศึกษา
พ.ศ.2480 เป็นครูสอนนักธรรม
พ.ศ.2501 เป็นเจ้าสำนักเรียนพระปริยัติธรรมวัดยางงาม และเป็นผู้อุปการะโรงเรียนประชาบาลวัดยางงาม
ในการส่งเสริมการศึกษา หรือการเผยแผ่พระพุทธศาสนา หลวงปู่ม่วง ยังเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่องอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย จัดให้มีการอบรมศีลธรรม จริยธรรม แก่ประชาชนทั่วไป ในแต่ละปีจะจัดให้มีการบวชชีพราหมณ์ขึ้น ในวันสำคัญต่างๆในทางพระพุทธศาสนา แม้ในวันหยุด เช่นวันเสาร์-อาทิตย์ ก็มีคนมาร่วมบวชชีพราหมณ์กับท่านอยู่เป็นประจำมิได้ขาด นอกจากนี้ยังจัดให้มีการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน อบรมวิปัสสนากัมมัฏฐานทุกปี จัดสวดพระปาฏิโมกข์ และฟังการอ่านพระปาฏิโมกข์แปล ทุกวันพระ 15 ค่ำ กลางเดือน และสิ้นเดือน
นอกจากนี้ยังจัดให้มีการพิมพ์หนังสือ บทความธรรมะ แจกจ่ายแก่พระภิกษุ สามเณร และบุคคลทั่วไป จัดตั้งกองทุนเพื่อการศึกษา ในเขตโรงเรียนประถมศึกษาต่างๆ พร้อมทั้งการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ งานสาธารณูปการ อีกทั้งบูรณะ และพัฒนากุฏิสงฆ์ไม้เรือนไทย ศาลาหอฉัน สร้างสะพานข้ามคลองยาว 15 เมตร กว้าง 2 เมตร เพื่อประโยชน์แก่ส่วนรวม อีกทั้งยังจัดสร้างถาวรวัตถุอีกมากมายหลายอย่าง
ชาวบ้านที่เดินทางมาเข้าร่วมพิธีอุปสมบทหรือบวชชีพราหมณ์ หลวงปู่ม่วง จะเป็นผู้ที่สั่งสอนด้วยตนเอง โดยจะเน้นให้ทุกคนปฏิบัติตนให้เป็นคนดี และให้มีจิตใจเมตตา เมื่อมีความเมตตาแล้ว ทุกอย่างจะตามมา และประสบความสำเร็จ
สิ่งที่หลวงปู่ม่วงได้กล่าวเน้นย้ำให้ทุกคนฟัง และให้ทุกคนจำให้ขึ้นใจมีว่า
"ขอให้ทุกคนจงรักษาศีล ทำแต่ความดี เมตตาเขา เขาเมตตาเรา ธรรมะจะรักษาคน ธรรมะจะรักษาตัว ธรรมะจะรักษาใจ ทั้งหมดรวมไว้ในเมตตาธรรม แจกธรรมะ ดีกว่าแจกพระเครื่อง"
ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์
พ.ศ.2480 เป็นครูสอนนักธรรม ณ สำนักเรียนวัดยางงาม
พ.ศ.2488 เป็นเจ้าคณะตำบลจอมประทัด
พ.ศ.2501 เป็นเจ้าอาวาสวัดยางงามและเจ้าคณะตำบลปากท่อ
พ.ศ.2508 เป็นพระอุปัชฌาช์
พ.ศ.2540 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอปากท่อ
ลำดับสมณศักดิ์
พ.ศ.2501 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ เป็นพระครูสุนทรจริยาวัตร
พ.ศ.2521 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม
หลวงปู่ม่วง เป็นพระที่มีความเมตตา ไม่เคยดุด่าว่าใคร ทำให้ชาวบ้านต่างเลื่อมใสศรัทธาอย่างยิ่ง ท่านเคยปรารภว่า อยากให้ทุกคนมีความเมตตา โดยเมื่อมีเมตตาแล้ว สิ่งดีๆจะบังเกิดตามมา
มีคำร่ำลือกันว่า หลวงปู่ม่วง มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ พูดสิ่งใด มักจะเป็นอย่างที่พูดเสมอ ท่านมีศิษยานุศิษย์ที่เคารพนับถือมีทุกระดับชั้น ตั้งแต่ข้าราชการ นักการเมือง พ่อค้าประชาชน ไปจนถึงประชาชนระดับรากหญ้า
นอกจากนี้หลวงปู่ม่วงท่านยังเคยได้ปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ จ.สมุทรสงคราม ร่วมกับหลวงปู่หยอด วัดแก้วเจริญ หลวงปู่ม่วงท่านจะมีอายุเท่าๆกับหลวงปู่หยอด สมัยหลวงปู่หยอด ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะไปมาหาสู่กันบ่อยมาก เพราะท่านเป็นศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกัน
ด้านวัตถุมงคล ที่หลวงปู่ม่วงได้อธิษฐานจิต เป็นที่ปรารถนาของบรรดาศิษยานุศิษย์ เพราะก่อให้เกิดอิทธิฤทธิ์ต่างๆอย่างมากมาย วัตถุมงคลที่เคยทำออกมา อาทิ เหรียญหลวงปู่ม่วง จัดสร้างปี พ.ศ.2528 งานปิดทองฝังลูกนิมิต จัดเป็นเหรียญรุ่น 1 ต่อมาได้จัดทำเชือกมงคลด้าย 7 สี เหรียญลงยา พระปิดตา ฯ วัตถุมงคลแต่ละรุ่นจะมีประวัติการสร้างไม่ซ้ำกัน ส่วนใหญ่ลูกศิษย์จะสร้างถวาย
วัตถุมงคลต่างๆที่ลูกศิษย์ได้นำไปบูชานั้น ลูกศิษย์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โดดเด่นด้านเมตตามหานิยม และอยู่ยงคงกระพัน เคยมีผู้ที่มีประสบเหตุการณ์รอดตายจากอุบัติเหตุ รอดพ้นภยันตรายต่างๆ แคล้วคลาดไม่ได้รับบาดเจ็บมาหลายคน ทำให้เหล่าลูกศิษย์ต่างเชื่อมั่นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของวัตุมงคลของหลวงปู่ม่วง ที่คอยคุ้มครองปกปักรักษาให้ทุกคนปลอดภัย เสียงร่ำลือจากปากสู่ปากนี่เองทำให้ประชาชนชาวจังหวัดราชบุรี และประชาชนทั่วประเทศ มุ่งหน้าเดินทางมาที่วัดยางงาม เพื่อขอพร และให้หลวงปู่ม่วง เสกเป่ากระหม่อม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตนเอง และครอบครัว
ถึงแม้อายุขัยจะล่วงเข้าสู่วัย 95 ปีแล้ว แต่ด้วยความมีเมตตาเป็นที่ตั้งหลวงปู่ม่วงมักจะถูกนิมนต์ ให้ไปร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอยู่เป็นเนืองนิตย์ ประกอบกับการที่ท่านยังมีร่างกายที่แข็งแรง มีความคิดพัฒนาอยู่ตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้ ทำให้ท่านมุ่งมั่นทำงานเผยแผ่พระธรรมอย่างต่อเนื่อง ยึดมั่นที่จะเดินหน้าให้ทุกท่านรับความรู้สัจธรรมแห่งชีวิต สมกับฉายานาม พระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มน้ำแม่กลอง
ท่านมีเมตตามากๆครับ ใครยังไม่เคยไปกราบท่านควรหาเวลาไปกราบท่านให้ได้ครับ ใจดีมากๆเมตตาสูง ท่านใช้มือทั้ง 2 ข้างประคองจับไหล่ผม และถามว่ามาจากไหน
วัตถุมงคลของท่านปัจุบันก็มีให้บูชาบ้างไม่มากนัก ส่วนใหญ่ศิษย์จะทำถวาย เช่น เหรียญชุด 3 องค์ ชุบทอง นาค เงิน ท่านรองเจ้าอาวาสจัดสร้างขึ้นเพื่อหารายได้สร้างถาวรวัตถุภายในวัด,ล็อคเก็ตรูปเหมือนหลวงปู่ และยังมีตะกรุดจารมือหลายขนาด ขลังมากเลย ท่านเรียนมาจากพระอาจารย์ท่าน คือ หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ สมัยหลวงปู่ใจ ยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะสร้าง ตะกรุดลูกอมโลกธาตุ ซึ่งถ้าท่านใดที่ชอบสะสมเครื่องรางจะรู้จักกันดี ตะกรุดอีกอย่างที่สร้างชื่อเสียงให้กับหลวงปู่ใจ คือ ตะกรุดนเรศวรปราบหงสา ซึ่งปัจุบันหาได้ยากมาก
หลวงปู่ม่วงท่านก็ได้จัดสร้างตะกรุดตามวิชาของอาจารย์ท่าน คือหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ซึ่งมีการจัดทำขึ้นหลายขนาด ขนาดยาว 9 นิ้ว ก็มี แผ่นโลหะจะจารมือ และพอกผงพุทธคุณ เมื่อแห้งดีแล้วมีการลงรัดปิดทอง แล้วจึงเขียนยันต์ด้วยลายมืออีกที ตะกรุดทุกดอกจะใส่เส้นเกษาหลวงปู่ลงไปด้วยครับ ตะกรุดที่สร้างท่านจะไม่ให้ลูกศิษย์ปัมพ์ยันต์เด็ดขาดต้องจารมือเท่านั้น ผมถ่ายรูปมาให้ชมบางส่วน นอกจากนี้ถ้าใครไปกราบท่าน ท่านจะแจกลูกอม บางครั้งก็เป็นรูปถ่ายหลังยันต์เพื่อให้ประชาชนนำกลับไปสักการะบูชาอีกด้วย
ไปทำบุญกับท่านให้ได้ครับ ท่านชราภาพมากแล้ว ใน จ.ราชบุรี ปัจจุบันนี้ ท่านไม่เป็นสองรองใครครับ ทั้งด้ายวัยวุฒิ และคุณวุฒิ คนราชบุรีนับถือท่านกันมาก ท่านนับถือพระพุทธเจ้ามาก เวลานำพระที่บูชา มาให้ท่านอธิษฐานอีกที ท่านจะนำพระในมือไหว้ไปทาง พระพุทธรูปก่อนอธิษฐาน และพรมน้ำมนต์ลงบนพระครับ
ขอบคุณข้อมูลจากเวบ www.palungjit.com