:059:วันเวลาล่วงเลยผ่านไป ทุกคนเติบใหญ่หรือไม่ก็โรยรา ตามกาลเวลาของชีวิต พบปะแล้วจากลาเป็นเรื่องธรรมดาตามกฏธรรมชาติ
ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ไม่เร็วก็ช้าก็ถึงวันเวลาที่ต้องจากกัน คงเหลือเพียงความรู้สึกที่มีต่อกัน ดีบ้างเลวบ้างก็ช่างมัน ถือว่าเป็นกรรมที่ทำร่วมกันมา คงถึงกาลเวลาที่จะต้องอโหสิกรรมให้แก่กัน
:060:เหนื่อย เพลีย อ่อนล้ากับการเดินทาง อยากจะพักผ่อนให้เวลากับตัวเองบ้างในบางเวลา เพราะเรารู้ดีว่า สิ่งที่ผ่านมายังไม่ใช่มันไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเรา เหตุการณ์มันบังคับให้เราต้องเล่น ต้องเป็นไปตามบทบาทที่เขากำหนดเสนอให้ ซึ่งบางครั้งมันฝืนความรูสึกภายในของตัวเรา แต่ก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้
:016:แต่วันนี้เหตุการณ์ได้ผ่านไป ทุกคนต่างเติบใหญ่ ได้เรียนรู้อะไรมาแล้วมากมาย"ทำให้ดู อยู่ให้เห็น สอนให้เป็น แล้วก็ไป" เมื่อหมดหน้าที่ของเราแล้ว คงจะต้องจากไป ใครจะเรียนรู้ได้ขนาดไหน แล้วแต่วาสนาบารมีของเขา แต่สำหรับเรา"ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดก็เพียงพอแล้ว"ไม่ได้หวังผลในการกระทำ ทำโดยบทบาทและหน้าที่ แต่ต้องทำให้ดีที่สุด ตามกำลังความสามารถของเรา
:054:พรุ่งนี้ถ้ายังมีลมหายใจอยู่ ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป โดยเราจะเป็นผู้กำหนดอนาคตของตัวเรา ว่าจะไปสู่ทิศทางใด พยายามวางภาระ
ละทิ้งสิ่งที่ไร้สาระ ที่เป็นพันธะออกจากจิต กลับไปสู่ความไม่มีอะไร ไม่ติดยึดใน ลาภ ยศ สรรเสริญ และสถานที่ พึงพอใจในสิ่งที่มี"คือชีวิตที่เพียงพอ"
:090:ไม่ใช่โชคชะตา หรือว่าฟ้าลิขิต
:090:ไม่ใช่นิมิตรของสวรรค์ หรือพรหมนั้นบันดาล
:090:สิ่งที่ประสพ และพบพานที่ผ่านมา
:090:ล้วนแล้วเกิดจากการกระทำที่ผ่านมา
:090:ซึ่งรวมแล้ว สรุปว่า"ล้วนแล้วเกิดจากกรรม"
:016:เชื่อมั่น-ศรัทธา-ในคุณธรรมและความดี
:114:รวี สัจจะ
:059:วจีพเนจร-คนรอนแรม
๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๒ เวลา ๒๐.๑๐ น. ณ ชายป่าห้วยขาแข้ง อุทัยธานี