ไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่น

พิธีไหว้ครู ถือได้ว่าเป็นประเพณีที่สำคัญยิ่งสำหรับการศึกษาเล่าเรียนในศิลปะวิทยาแขนงต่างๆ จัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระคุณของครูบาอาจารย์ผู้อบรมสั่งสอนวิชาความรู้ เรียกได้ว่าเป็นพิธีที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ศิษย์ได้เกิดมีความกตัญญูกตเวที

การสักยันต์ของทางวัดบางพระ ก็จัดได้ว่าเป็นวิชาความรู้แขนงหนึ่ง โดยทุกๆ ปี ทางวัดจะจัดให้มีพิธีไหว้ครูใหญ่ประจำปีขึ้นในวันเสาร์กลางเดือน ๔ เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณบุรพาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา ในวันงานจะคลาคลั่งไปด้วยศิษยานุศิษย์วัดบางพระที่มารวมตัวกันอย่างล้นหลาม จนทำให้พื้นที่บริเวณลานวัดดูแคบไปอย่างถนัดตา

พิธีบูชาครูบูรพาจารย์ของหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ กระทำสืบทอดมาแต่โบราณกาลตามความเชื่อถือเก่าแก่ของบูรพาจารย์ในสมัยโบราณ ปัจจุบันที่เห็นหลงเหลือก็จะมีพิธีไหว้ครู โขน ละคร มีการครอบครูของศิลปินนักแสดง หรือการไหว้ครูของนักเรียนในโรงเรียน แต่พิธีไหว้ครูหรือบูชาครูของหลวงพ่อเปิ่น เป็นพิธีของพระเกจิอาจารย์ที่บูชาบูรพาจารย์ บวงสรวงพรหม เทพยดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ กล่าวกันว่าระหว่างที่องค์ท่านบริกรรมพระคาถา วิปัสสนากรรมฐานระลึกถึงครูบาอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ องค์ต่างๆ จะเข้าประทับหมุนเวียนกันไปนับเป็นจำนวนพันๆ ภาค อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นองค์พ่อแก่ฤาษีหรือบูรพาจารย์ พระอาจารย์ต่างๆ ตลอดจนเทพเทวดาเบื้องบน ก็มาร่วมพิธีให้เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น

เมื่อลูกศิษย์ลูกหาได้เดินทางมาถึงยังวัดบางพระแล้ว ก็จะไปบูชาพานครูเพื่อน้อมนำไปบูชาครูบาอาจารย์ที่บริเวณปะรำพิธีกลางลานวัด เสร็จแล้วก็แยกย้ายไปจับจองพื้นที่นั่งภายในบริเวณวงสายสิญจน์ที่ขึงรอบมณฑลพิธีไหว้ครูโดยรอบทั้ง ๔ ทิศ

ก่อนเริ่มพิธี พระคณาจารย์ผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาแขนงต่างๆ จากพระเดชพระคุณหลวงพ่อเปิ่น ก็จะมีการบูชาบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ภายในวัดบางพระ เริ่มจากที่หน้าสังขารหลวงพ่อเปิ่นบนกุฏิพระอุดมประชานาถ (กุฏิใหญ่) อุทยานฤาษี และวิหารบุรพาจารย์ ก่อนที่จะขึ้นสู่บนปะรำพิธีใหญ่หน้ารูปหล่อหลวงพ่อเปิ่น

ครั้นได้ฤกษ์เริ่มพิธีขึ้นเวลา ๙.๓๙ น. พระคณาจารย์ของวัดบางพระ ก็จะเจริญสมาธิภาวนาเพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณครูบาอาจารย์ ลูกศิษย์ลูกหาบางคนก็ปรากฏมีอาการที่เรียกว่า “ของขึ้น”   ที่จะแสดงอาการแตกต่างกันไปตามรอยสักของแต่ละคนตามความเชื่อ โดยคนที่ของขึ้นส่วนใหญ่ มักเกิดแก่คนที่มีความเลื่อมใส จิตใจตั้งมั่นยึดมั่นในครูบาอาจารย์ มีอ่อนไหวง่ายเมื่อหลับตาระลึกถึงครูบาอาจารย์พระองค์ท่าน พวกที่สักอักขระที่เป็นรูปลักษณ์ต่างๆ เช่น สักรูปเสือเผ่น ก็กางเล็บกระโดดโจนทะยานวิ่งเข้าหาหลวงพ่อหน้าปะรำพิธี ขณะที่หลวงพ่อเริ่มทำการบวงสรวง จุดธูป เทียน บูชาครู บูรพาจารย์ ผู้ที่สักเป็นรูปหนุมานก็กระโดดโลดเต้นตีลังกาเข้าหา ที่สักหมูป่าก็แผดเสียงร้องก้อง วิ่งเข้าหาหลวงพ่อ บนพื้นดินก็มีคนคลานเลื้อยเหมือนปลาไหล ที่น่าแปลกก็คือ ภายหลังจบพิธี ไม่พบร่องรอยบาดแผล ถลอก หรือเลือดตกยางออกให้เห็นเลย บางคนของขึ้นก็ทำท่าทางยกมือเหมือนถือไม้เท้าเดินกระย่องกระแย่งลักษณะเหมือนฤาษี ตอนนี้โกลาหลไปหมดคนที่นั่งในวงสายสิญจน์ต่างก็แตกตื่นลุกหนีคนที่ของขึ้น ต้องคอยหลบหลีกพวกที่ของขึ้นวิ่งเข้าหาปะรำพิธีกันอลหม่าน ภายในสนามรอบสายสิญจน์ คนที่ของขึ้นต่างก็วิ่งเข้าหาหน้าปะรำพิธี แต่ก็มีพวกลูกศิษย์ที่จิตใจแข็งไม่เกิดการของขึ้น หลายคนช่วยกันจับคนที่ของขึ้นที่มีกำลังวังชามากมายที่ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหน วิธีแก้ของขึ้นก็โดยการใช้ ๒ มือ ตบที่หูเบาๆ หรือใช้มือลูบหน้าตรงจมูก หรือยกขาให้สูงกว่าตัว การไม่ให้ของขึ้นจะเตือนสติให้หายใจลึกๆ ให้ลืมตาไม่ให้หลับตา เคยถามคนที่ของขึ้นว่ารู้สึกยังไง เขาก็ตอบว่า ระหว่างหลับตาอยู่ในภวังค์ สติวูบไปอย่างไม่รู้สึกตัวว่าตัวเองทำอะไรไปบ้าง เมื่อเสร็จพิธีแล้ว คลื่นศิษยานุศิษย์ก็จะมุ่งตรงเข้าไปยังปะรำพิธีเพื่อรอรับน้ำพระพุทธมนต์จากพระคณาจารย์ของวัดบางพระ

บทสัมภาษณ์หลวงพ่อเปิ่น เกี่ยวกับพิธีไหว้ครู และอาการของขึ้น

ผู้สัมภาษณ์ : พิธีไหว้ครูเนี่ยะ ที่จัดขึ้นทุกปีเนี่ยะครับ มีความเป็นมายังไง?
หลวงพ่อเปิ่น : “มันก็ต้องถึงครั้งโบราณหน่ะ เป็นมาเนื่องๆ ติดต่อ เรื่อยๆ ต้อง..ทุกปีต้องไหว้ครู ไม่ไหว้ก็..มันก็เป็นไอ้โน่นเป็นไอ้นี่ ปวดหัวตัวร้อนไป เอ่อ..ต้องมีไหว้ครู ทุกปีต้องไหว้ครู สักไปมากๆ ก็ทำให้..โบราณเค้าว่ามันร้อน ร้อนวิชาไป ต้องกราบไหว้บูชาครูบาอาจารย์ ปีๆ นึง”

ผู้สัมภาษณ์ : เพื่อจะได้เย็นขึ้นใช่ไหมครับ?
หลวงพ่อเปิ่น : “เออ..มันมีเรื่องว่า ตั้งแต่โบราณ เออ..เค้ากำหนดให้..ให้ไหว้ครู ให้ครอบ ใช่มั๊ย จะได้ให้ลูกศิษย์ลูกหามันได้สงบ ไอ้ที่ร้อนหน่ะมันไม่ได้ไป ไปทางไหนหล่ะ อยู่ในขอบเขต ขอบเขตตัวเอง ก็บางคนมันร้อน สักไปมากๆ บางคนมันร้อนไป ไม่อยู่บ้านอยู่ช่อง เออ..ร้อน ว่างมันก็ไปเที่ยวส่ง บางครั้งมันเข้าไม่ได้หรอก เพราะว่ามัน..มันร้อน..เออ”

ผู้สัมภาษณ์ : ขณะที่ทำพิธีไหว้ครูเนี่ยะครับหลวงพ่อ บางคนเค้าทำไมมีอาการของขึ้น?

หลวงพ่อเปิ่น : “มันขึ้น มันสุดแท้แต่ว่าใจมัน ใจมันอ่อนก็ขึ้นง่าย ใจมันแข็งก็ไม่ค่อยขึ้น บางทีหนาวๆ ร้อนๆ ใจอ่อนก็ขึ้นง่าย ยิ่งคนที่เชื่อมั่นมันก็ขึ้นง่าย โดดโผงผางๆๆ ไป ไอ้ที่ว่าใจแข็งๆ ก็ไม่ค่อยขึ้น มันจะให้ขึ้นไปทุกคนไม่ได้หรอก บางทีก็หนาวๆ ร้อนๆ ขนลุกซู่ซ่าๆ”