คนกตัญญู

อันคนกตัญญู
มักชอบดูทางเดินมา
สนใจใฝ่ศึกษา
ว่าตนมาได้อย่างไร
ทางนี้แต่ก่อนนั้น
สภาพมันเป็นอย่างไร
ใครเริ่มแผ้วถางไว้
ตนจึงได้มีทางเดิน
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๓๑ ก.ค.๒๕๖๓

ทางเดินของชีวิต

ทางเดินของชีวิต
ทุกๆทิศและทุกที่
เหวบ่อล้วนมากมี
โดยพร้อมที่จะเป็นภัย
สติและปัญญา
จำต้องหาให้มากไว้
และนำออกมาใช้
ทุกก้าวย่างทุกทางเดิน
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๓๐ ก.ค.๒๕๖๓

ถึงคราวกรรมให้ผล

ถึงคราวกรรมให้ผล
จิตใจคนมักมืดมัว
เห็นจักรทำลายหัว
เป็นดอกบัวน่าบูชา
ใจใครวิปริต
เกิดความคิดดังกล่าวมา
หยุดคิดด้วยปัญญา
อาจรอดพ้นจากผลกรรม
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๒๙ ก.ค.๒๕๖๓

อยู่กันเป็นสังคม

อยู่กันเป็นสังคม
จักสุขสมและร่มเย็น
ต้องทำตามกฎเกณฑ์
มิใช่ทำตามใจตน
ยวดยานที่เราใช้
ขับขี่ไปบนถนน
ปลอดภัยไม่เกิดชน
ก็เพราะทำตามกฎเกณฑ์
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๒๘ ก.ค.๒๕๖๓

เวรกรรมที่ทำไว้

เวรกรรมที่ทำไว้
ฝังลึกในจิตใจตน
ติดตามไปทุกหน
คอยให้ผลทุกเวลา
เมล็ดพืชที่หว่านไป
อาจเกิดภัยไม่งอกมา
เวรกรรมท่านสอนว่า
มิได้เป็นเช่นนั้นเลย
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๒๗ ก.ค.๒๕๖๓

ความเหลื่อมล้ำ

การทำอย่างเดียวกัน
คนหนึ่งนั้นน่าบูชา
คนหนึ่งกลับชั่วช้า
นี้เรียกว่าไม่เป็นธรรม
ที่ใดเป็นเช่นนี้
ชื่อว่ามีความเหลื่อมล้ำ
สังคมเกิดระส่ำ
สันติธรรมยากจักมี
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๒๖ ก.ค.๒๕๖๓

มีศีลและมรรยาท

มีศีลและมรรยาท
ล้วนสามารถเป็นคนดี
มิได้จำกัดที่
ทั้งไม่มีจำกัดกาล
เหมือนดั่งอัคนี
ทุกราตรีทิวาวาร
ทุกที่ทุกสถาน
โชติตระการได้ทั่วไป
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๒๕ ก.ค.๒๕๖๓

เหตุเกิดความขัดแย้ง

เหตุเกิดความขัดแย้ง
ปราชญ์แสดงว่ามีสอง
ฝ่ายหนึ่งคิดยึดครอง
อีกฝ่ายปองคิดอยากได้
และท่านยังบอกชี้
ถึงวิธีใช้แก้ไข
สองฝ่ายต้องมีใจ
มุ่งกำจัดตัวอัตตา
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๒๔ ก.ค.๒๕๖๓

ฐานะทางสังคม

ฐานะทางสังคม
ที่สร้างสมมาทางดี
เรียกกันว่าศักดิ์ศรี
ทุกคนมีความภูมิใจ
ร่างกายแม้ถูกฆ่า
หลายคนว่าไม่เป็นไร
คือยังไม่เจ็บใจ
เท่าย่ำยีศักดิ์ศรีกัน
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๒๓ ก.ค.๒๕๖๓

หวังดีกับผลดี

หวังดีกับผลดี
ในบางทีก็ตรงกัน
บางทีทั้งสองนั้น
ก็ไปกันคนละอย่าง
สร้างเรือไว้ข้ามฝั่ง
แต่บางครั้งเกิดอับปาง
ไม่ถึงซึ่งปลายทาง
ที่คิดหวังบ้างก็มี
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๒๒ ก.ค.๒๕๖๓