อยู่กันเป็นสังคม

อยู่กันเป็นสังคม
จักสุขสมนักปราชญ์ว่า
ทำตามกติกา
อย่าได้ทำตามใจตน
ใจคนมักชอบง่าย
ชอบสบายไม่อดทน
หากทำตามใจตน
หนีไม่พ้นความวุ่นวาย
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๕ เม.ย.๒๕๖๓

การรู้จักตัดตอน

การรู้จักตัดตอน
เรื่องไหนก่อนเรื่องไหนหลัง
ไม่นำมาประดัง
ให้สับสนปนเปื้อนกัน
ท่านว่าผู้บัณฑิต
เขารู้คิดกันอย่างนั้น
ส่วนรวมย่อมสำคัญ
ต้องยึดมั่นเหนือสิ่งใด
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๔ เม.ย.๒๕๖๓

หนักแน่นยามมีภัย

หนักแน่นยามมีภัย
และร่วมใจสามัคคี
ต่อสู้กับไพรี
ไม่วิวาทขัดแย้งกัน
ธรรมนี้ปราชญ์สอนว่า
มีคุณค่านับอนันต์
เป็นธรรมเครื่องสร้างสรรค์
ความยิ่งใหญ่ให้สังคม
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๓ เม.ย.๒๕๖๓

อันว่า ปัจจัยสี่

อันว่า ปัจจัยสี่
แต่พอที่ได้อาศัย
สืบชีพให้เป็นไป
ย่อมเกื้อกูลคุณธรรม
รู้ก่อความพอเพียง
คือทางเลี่ยงความระกำ
อีกทั้งยังช่วยนำ
พ้นข้องขัดวิบัติภัย
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๒ เม.ย.๒๕๖๓

กำลังของคนขลาด

กำลังของคนขลาด
ผู้เป็นปราชญ์ว่าไร้ค่า
คนผู้ไม่หาญกล้า
มีปัญญาก็ป่วยการ
ทรัพย์ของคนตระหนี่
แม้มากมีมหาศาล
ไม่ใช้ไม่ให้ทาน
ต่างอะไรกับไม่มี
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๑ เม.ย.๒๕๖๓

เกิดเป็นเทวดา

เกิดเป็นเทวดา
โบราณว่าต้องอดทน
มนุษย์เกือบทุกคน
มักชอบบ่นเป็นธรรมดา
ฝนตกเขาก็แช่ง
ยามฝนแล้งเขาก็ด่า
โรคภัยเกิดขึ้นมา
เทวดาพลอยรับกรรม
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๓๑ มี.ค.๒๕๖๓

สาเหตุแห่งความดื้อ

สาเหตุแห่งความดื้อ
ข้อหนึ่งคืออวิชชา
ความรู้แค่งู-ปลา
ขาดปัญญาที่รู้จริง
อีกหนึ่งคือมานะ
ไม่ลดละความเย่อหยิ่ง
อัตตามีสูงยิ่ง
ว่าตัวเองเก่งกว่าใคร
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๓๐ มี.ค.๒๕๖๓

มนุษย์และเครื่องมือ

มนุษย์และเครื่องมือ
จะลือชื่อหรือไร้ค่า
นักปราชญ์ท่านสอนว่า
ล้วนข้ึนอยู่กับผู้ใช้
ผู้ใช้มีปัญญา
ก็มีค่าอันยิ่งใหญ่
คนโง่เป็นผู้ใช้
มักทำให้ไร้ราคา
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๒๙ มี.ค.๒๕๖๓

ความจนนักปราชญ์ว่า

ความจนนักปราชญ์ว่า
ทุกข์หนักหนากว่าทุกข์ใด
ยากนักจักมีใคร
ไม่ทุกข์ใจในยามจน
ความเพียรพระสอนไว้
แก้จนได้กันทุกคน
หากยังไม่ผ่านพ้น
ให้ระลึกนึกถึงกรรม
พระเทพมหาเจติยาจารย์
จจ.นฐ. ๒๗ มี.ค.๒๕๖๓