คำพระสอน

ร่างกาย คำพระสอน
ว่านครแห่งกระดูก
เส้นเอ็นเป็นเครื่องผูก
ตึงตราไว้ให้ติดกัน
ฉาบไว้ด้วยเนื้อหนัง
เป็นที่ตั้งความยึดมั่น
ถือผิวและชังพันธุ์
ด้วยมานะอวิชชา

พระเทพมหาเจติยาจารย์
๑๕ เม.ย. ๒๕๖๖

ศักดิ์ศรีของมนุษย์

ศักดิ์ศรีของมนุษย์
สำคัญสุดกว่าสิ่งใด
ทุกคนย่อมเจ็บใจ
เมื่อถูกใครมาย่ำยี
อกเขาและอกเรา
คนแต่เก่าสอนอย่างนี้
เป็นหนึ่งในวิธี
ที่ทำให้เห็นใจกัน

พระเทพมหาเจติยาจารย์
๑๔ เม.ย. ๒๕๖๖

บุคคลผู้เอื้อเฟื้อ

บุคคลผู้เอื้อเฟื้อ
คอยช่วยเหลืออยู่เป็นนิตย์
นักปราชญ์เรียกว่ามิตร
ผู้ช่วยนำความเจริญ
คลุกคลีกันเกินไป
ไม่ใส่ใจคล้ายหมางเมิน
และขอกันมากเกิน
นี้ทำลายสายสัมพันธ์

พระเทพมหาเจติยาจารย์
๑๓ เม.ย. ๒๕๖๖

สติ

อาวุธท่านว่าไว้
หากอยู่ในมือคนบ้า
ภัยใหญ่ย่อมเกิดมา
ทุกเวลาและทุกที่
สติเหนี่ยวรั้งจิต
ให้รู้คิดถึงชั่วดี
ผู้ใดไม่เคยมี
คนอย่างนี้ท่านว่าบ้า

พระเทพมหาเจติยาจารย์
๑๒ เม.ย. ๒๕๖๖

สละความยึดมั่น

ฝ่ายหนึ่งคิดครอบครอง
อีกฝ่ายปองคิดอยากได้
นักปราชญ์ว่าเหตุใหญ่
ที่ทำให้วิวาทกัน
ดังนั้น เมื่อสองฝ่าย
รู้แจกจ่ายและแบ่งปัน
สละความยึดมั่น
ย่อมเป็นทางสร้างปรองดอง

พระเทพมหาเจติยาจารย์
๑๑ เม.ย. ๒๕๖๖

ความทุกข์หรือปัญหา

ความทุกข์หรือปัญหา
คู่กันมากับชีวิต
เหมือนเงาเฝ้าตามติด
ไปกับตนทุกหนไป
ไม่กลุ้มกับปัญหา
ใช้ปัญญาเข้าแก้ไข
ปัญหามากเท่าไหร่
ได้ปัญญามาเท่านั้น

พระเทพมหาเจติยาจารย์
๑๐ เม.ย. ๒๕๖๖

ตัณหา ความอยากได้

ตัณหา ความอยากได้
โดยที่ไม่รู้จักพอ
พระว่าเป็นเหตุก่อ
ให้เกิดทุกข์ไร้สุขใจ
ยิ่งถูกอวิชชา
มาช่วยเพิ่มกำลังให้
ก็ยิ่งก่อทุกข์ภัย
ลุกลามไปสู่สังคม

พระเทพมหาเจติยาจารย์
 เม.ย. ๒๕๖๖

สมมุติสัจจะ ปรมัตถสัจจะ

สมมุติสัจจะ
เป็นธรรมะสำหรับโลก
ให้ทั้งสุขและโศก
แก่ชีวิตและจิตใจ
ปรมัตถสัจจะ
เป็นธรรมะเพื่อมาใช้
ดับความคิดอวิชชา

พระเทพมหาเจติยาจารย์
 เม.ย. ๒๕๖๖

ผู้ทำพูดและคิด

ผู้ทำพูดและคิด
ทุจริตเป็นประมาณ
พระเรียกว่าคนพาล
ใครไปคบมักพบภัย
ส่วนผู้ทำพูดคิด
สุจริตมั่นในใจ
ปัญญาก็กว้างไกล
ใครคบหาพาเจริญ

พระเทพมหาเจติยาจารย์
 เม.ย. ๒๕๖๖

ถ่านไฟที่มีไฟ

ถ่านไฟที่มีไฟ
ย่อมเผาไหม้มือคนจับ
และแม้ที่ไฟดับ
ใครไปจับมือก็ดำ
คนพาลเหมือนถ่านไฟ
มีทุกข์ภัยอยู่ประจำ
คบหามีแต่นำ
ทุกข์และภัยน้อยใหญ่มา

พระเทพมหาเจติยาจารย์
 เม.ย. ๒๕๖๖